สวนดุสิตโพล: คนไทยกับโควิด-19 ระลอก 3

ข่าวผลสำรวจ Monday April 26, 2021 08:35 —สวนดุสิตโพล

/

การแพร่ระบาดของโควิด -19 ระลอก 3 ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา                       สร้างความวิตกกังวลและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการป้องกันตลอดจนแนวทางแก้ปัญหาของรัฐบาล ซึ่งมีหลายพื้นที่              ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน ?สวนดุสิตโพล? มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,082 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 16-22 เมษายน 2564 สรุปผลได้ ดังนี้

1. ประชาชนคิดอย่างไร กับ การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3
อันดับ 1          การแพร่ระบาดกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆอย่างรวดเร็ว          74.29%
อันดับ 2          เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์และผู้เกี่ยวข้องต้องทำงานอย่างหนัก          67.56%
อันดับ 3          กลัวว่ารัฐบาลจะรับมือไม่ไหว /ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้          67.28%
อันดับ 4          ทุกคนต้องหมั่นดูแลตัวเอง เช่น อยู่บ้าน ล้างมือ           63.58%
อันดับ 5          เป็นห่วง/คำนึงถึงความปลอดภัยของคนในครอบครัว          62.76%






2. ประชาชนคิดว่าสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ทำให้คนตื่นตระหนก วิตกกังวลมากกว่าครั้งที่ผ่านมาหรือไม่
อันดับ 1          ตื่นตระหนก วิตกกังวลมากกว่า                   68.40%
อันดับ 2          ตื่นตระหนก วิตกกังวลเท่าเดิม                 19.60%
อันดับ 3          ตื่นตระหนก วิตกกังวลน้อยกว่า                 12.00%




3. ประชาชนคิดอย่างไร กับ ความรุนแรงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยทั้ง 3 ระลอก
อันดับ 1          ระลอก 3 รุนแรงมากที่สุด                70.51%
อันดับ 2          ทั้ง 3 ระลอกรุนแรงพอๆกัน          23.34%
อันดับ 3          ระลอก 1 รุนแรงมากที่สุด                 4.47%
อันดับ 4          ระลอก 2 รุนแรงมากที่สุด               1.68%





4. ประชาชนมีวิธีการป้องกันโควิด-19 ระลอก 3 ในครั้งนี้อย่างไรบ้าง
อันดับ 1          สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา /ล้างมือบ่อยๆ          83.90%
อันดับ 2          หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง /มีคนจำนวนมาก          79.72%
อันดับ 3          เว้นระยะห่างทางสังคม          76.50%
อันดับ 4          งดออกจากบ้าน/อยู่บ้าน          71.60%
อันดับ 5          ปฏิบัติตามประกาศของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด          65.93%






5. ประชาชนคิดว่ารัฐบาลจะรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ได้หรือไม่
        น่าจะรับมือได้ 39.19%             ไม่แน่ใจ 35.73%              ไม่น่าจะรับมือได้ 25.08%
6. ประชาชนคิดว่าต้องใช้ระยะเวลาประมาณเท่าใด สถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 จึงจะดีขึ้น
        มากกว่า 3 เดือน 50.58%          3 เดือน 22.19%            2 เดือน 17.82%           1 เดือน 9.41%
7. ประชาชนคิดว่าโควิด-19 จะมีการระบาดระลอก 4 อีกหรือไม่
        มี 58.89%             ไม่แน่ใจ 37.61%           ไม่มี 3.50%
*หมายเหตุ   ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)









สรุปผลการสำรวจ : คนไทยกับโควิด-19 ระลอก 3
           สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี ?คนไทยกับโควิด-19 ระลอก 3?                         กลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,082 คน สำรวจวันที่ 16-22 เมษายน 2564 พบว่า ประชาชนมองว่าการระบาดระลอก 3 นี้มีการแพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ร้อยละ 74.29 ทำให้ตื่นตระหนกและวิตกกังวลมากกว่าครั้งที่ผ่านมา                   ร้อยละ 68.40 มองว่าระลอก 3 นี้มีความรุนแรงมากที่สุด ร้อยละ 70.51 จะป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อย ๆ ร้อยละ 83.90  มองว่ารัฐบาลน่าจะรับมือได้ ร้อยละ 39.19 โดยคาดว่าจะใช้เวลามากกว่า 3 เดือน จึงจะ                 ดีขึ้น ร้อยละ 50.58 และอาจจะมีการระบาดระลอก 4 ร้อยละ 58.89
          จากผลการสำรวจประชาชนมองว่าการระบาดระลอกนี้รุนแรงขยายวงกว้างรวดเร็วกว่าที่ผ่านมา ถึงแม้จะเริ่ม                  คุ้นชินกับสถานการณ์ แต่ก็ยังกังวลเรื่องการติดเชื้อและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รัฐบาลควรเพิ่มมาตรการเชิงรุก การตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึง และการเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ การรับมือที่ล่าช้าเช่นนี้จึงกังวลว่าอาจจะมีการระบาดระลอก 4 ตามมา

นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533

ทำไม Mass Vaccination Campaigns จึงสำคัญ
          การระบาดของ COVID-19 ระลอก 3 สายพันธุ์อังกฤษที่มีความรุนแรงและติดได้ง่ายขึ้น ทำให้ประเทศไทยต้องเจอกับวิกฤตเหมือนช่วงต้นปี 2020 ทำไมจึงเกิดซ้ำกับคนไทยอีกครั้ง!! เราต้องปรับในมุมมองของกลุ่มผู้ลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เขาเลือกที่จะเดินทางหรือเลือกลงทุนในกลุ่มประเทศที่มีการฉีดวัคซีนเยอะที่สุด ที่มี Mass Vaccination เพราะกลุ่มประเทศเหล่านี้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ไม่ได้เลือกไปในกลุ่มประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อย ต้องยอมรับว่าวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการวัคซีน COVID ที่หลงประเด็นของรัฐบาล พลาดเรื่องการจัดหาวัคซีน ดั่งคำพูดที่ว่า                     No Vaccine No Money น่าจะใช่ ซึ่งสอดคล้องกับผลโพลที่รัฐบาลน่าจะรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ครั้งนี้ได้เพียง 39.19% และประชาชนไม่แน่ใจถึง 35.73% เมื่อไม่มีการเร่งฉีดวัคซีนในประเทศให้เกิน 50% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ประเทศเราก็จะไม่มีภูมิคุ้มกันหมู่ และรายได้หลักของประเทศคือการท่องเที่ยว
เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจะเปิดประเทศได้อย่างไร ยิ่งฉีดวัคซีนให้ประชากรช้าเท่าไร ยิ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศมากเท่านั้น เสียหายมหาศาล!
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ขวัญหทัย เชิดชู
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต


ที่มา: สวนดุสิตโพล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ