การแพร่ระบาดของโควิด -19 ทำให้คนไทยต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในหลายด้าน ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากความวิตกกังวลในเรื่องของความปลอดภัยจากโรค
โควิด-19 การดูแลสุขภาพร่างกาย และสถานภาพทางการเงินที่ไม่มั่นคง เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน ?
สวนดุสิตโพล?
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,218 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม ? 2 กันยายน 2564 สรุปผลได้ ดังนี้
1. ?5 พฤติกรรม?ของประชาชนที่ ?เปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง? ในยุค
โควิด-19
อันดับ 1 ไปร่วมงานสังสรรค์ งานมงคล อวมงคล 90.50%
อันดับ 2 การเดินทางท่องเที่ยว 89.50%
อันดับ 3 รับประทานอาหารนอกบ้าน 87.25%
อันดับ 4 ไปศาสนสถาน วัด โบสถ์ มัสยิด ฯลฯ 86.75%
อันดับ 5 เยี่ยมพ่อแม่ ญาติพี่น้อง 82.00%
2. ?5 พฤติกรรม?ของประชาชนที่ ?ไม่เปลี่ยนแปลงเลย? ในยุค
โควิด-19
อันดับ 1 การดื่มแอลกอฮอล์/สูบบุหรี่ 55.48%
อันดับ 2 สมัครบริการดูความบันเทิงต่าง ๆ (Streaming) แบบจ่ายเงิน 39.86%
อันดับ 3 เสริมความงาม แต่งหน้า ตัดผม 31.06%
อันดับ 4 การช่วยเหลือกัน ความมีน้ำใจ การบริจาค 29.44%
อันดับ 5 ความสนุก อารมณ์ขัน 29.08%
3. ?5 พฤติกรรม?ของประชาชน ?ที่เกิดขึ้นใหม่? ในยุค
โควิด-19
อันดับ 1 สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา/เลือกซื้อหน้ากากหลายแบบมากขึ้น 90.12%
อันดับ 2 ทำอาหารรับประทานเอง 60.41%
อันดับ 3 เข้าร่วมมาตรการของภาครัฐ เช่น คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ 57.51%
อันดับ 4 ชำระค่าบริการต่าง ๆ ผ่านมือถือ 54.77%
อันดับ 5 ดูแลสุขภาพ รับประทานวิตามิน อาหารเสริม 51.20%
4. ในภาพรวม ประชาชนพึงพอใจต่อพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงในยุค
โควิด-19 หรือไม่
อันดับ 1 ค่อนข้างพึงพอใจ 35.48%
อันดับ 2 ไม่ค่อยพึงพอใจ 27.79%
อันดับ 3 ไม่พึงพอใจ 21.84%
อันดับ 4 พึงพอใจ 14.89%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
สรุปผลการสำรวจ : พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคนไทยในยุค
โควิด-19
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี ?พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคนไทยในยุค
โควิด-19? กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,218 คน ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม ? 2 กันยายน 2564 พบว่า พฤติกรรม ที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงมากที่สุด คือ การไปร่วมงานสังสรรค์ต่าง ๆ ร้อยละ 90.50 รองลงมาคือ การเดินทางท่องเที่ยว ร้อยละ 89.50 ส่วนพฤติกรรมที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย คือ การดื่มแอลกอฮอล์/สูบบุหรี่ ร้อยละ 55.48 โดยพฤติกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ คือ การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การเลือกซื้อหน้ากากหลากหลายแบบมากขึ้น ร้อยละ 90.12 ภาพรวมประชาชนค่อนข้างพึงพอใจต่อพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ร้อยละ 35.48 และไม่ค่อยพึงพอใจ ร้อยละ 27.79
สถานการณ์
โควิด-19 บีบให้ประชาชนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ว่าจะพอใจหรือไม่ก็ตาม โดยเฉพาะพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว เช่น การใส่หน้ากาก ล้างมือ ทำอาหาร ฯลฯ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนต้องพึ่งตนเองระหว่างที่รอการบริหารจัดการของภาครัฐ ยิ่งไปกว่านั้นการที่ประชาชนไม่สามารถออกไป ทำกิจกรรมปฏิสังสรรค์กันได้ก็ยังส่งผลต่อสุขภาพจิต อีกทั้งยังกระทบต่อภาคเศรษฐกิจด้วย
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533
จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เช่น การไปร่วมงานสังสรรค์ การเดินทางท่องเที่ยว การรับประทานอาหารนอกบ้าน สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการคุมเข้มของภาครัฐในการห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคล ประชาชนจึงให้ความร่วมมือกับภาครัฐ แต่ยังพบว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย ได้แก่ การดื่มแอลกอฮอล์/สูบบุหรี่ ดูความบันเทิงแบบจ่ายเงินและเสริมความงาม เนื่องจากเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ในเคหะสถาน ของตนเอง โดยประชาชนได้มีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การดูแลสุขภาพของตนเอง เนื่องจากประชาชนตระหนักถึงอันตรายจากโรคโควิด-19 ปัจจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนได้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่จนเป็นปกติ หรือที่เรียกว่า (New Normal) ทั้งนี้ยังมีมิติทางสังคมที่สะท้อนลักษณะนิสัยของคนไทยที่แม้ว่าโควิด-19 จะทำให้พฤติกรรมของประชาชนเปลี่ยนแปลงไปในหลายด้าน แต่ยังคงการช่วยเหลือกัน ความมีน้ำใจ และมีอารมณ์ขัน ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของคนไทย
อาจารย์อัษฎา พลอยโสภณ
รองคณบดีฝ่ายบริหารและกิจการนักศึกษา
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ที่มา: สวนดุสิตโพล