สวนดุสิตโพล: ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองในสายตาประชาชน

ข่าวผลสำรวจ Monday November 1, 2021 08:38 —สวนดุสิตโพล

สถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนี้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง การลงพื้นที่ของพรรคการเมืองต่าง ๆ ทำให้ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่หรือไม่ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,186 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคม 2564 สรุปผลได้ ดังนี้

1. ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่าง ๆ ณ วันนี้ ประชาชนคิดว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกอะไรบ้าง
อันดับ 1          ความแตกแยกในพรรคการเมือง                  60.09%
อันดับ 2          สร้างกระแสให้กับตนเองและพรรค          50.06%
อันดับ 3          เป็นเกมการเมือง                   49.26%
อันดับ 4          น่าจะมีการเลือกตั้ง          49.14%
อันดับ 5          เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นจากโควิด-19                  43.56%






2. ประชาชนคิดว่าจะมีการเลือกตั้ง ส.ส. ในต้นปี 2565 หรือไม่
    น่าจะมีการเลือกตั้ง 57.86%          ไม่น่าจะมีการเลือกตั้ง 28.36%        ไม่แน่ใจ 13.78%
3. ประชาชนคิดอย่างไร กรณีหากมีการเลือกตั้งใหม่
อันดับ 1          จะได้เปลี่ยนรัฐบาล                58.31%
อันดับ 2          เปิดโอกาสให้คนใหม่ ๆ เข้ามาแก้ไขปัญหา              56.26%
อันดับ 3          ได้เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี                50.80%
อันดับ 4          เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง               43.17%
อันดับ 5          ประชาชนได้ใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย               42.03%






4. ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ประชาชนคิดว่าพรรคใดจะได้รับเลือกตั้งมากที่สุด
อันดับ 1          เพื่อไทย                     32.94%
อันดับ 2          ก้าวไกล                     25.21%
อันดับ 3          พลังประชารัฐ          24.61%
อันดับ 4          ประชาธิปัตย์          6.18%
อันดับ 5          ภูมิใจไทย                      4.28%






5. ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี
อันดับ 1          พิธา ลิ้มเจริญรัตน์                   28.67%
อันดับ 2          ประยุทธ์ จันทร์โอชา                 21.27%
อันดับ 3          สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์          19.35%
อันดับ 4          อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ                      8.84%
อันดับ 5          พจมาน ดามาพงศ์                       6.09%






6. โดยภาพรวม ประชาชนคิดว่าถึงเวลาเลือกตั้งใหม่แล้วหรือยัง
     ถึงเวลาแล้ว 70.29%          ยังไม่ถึงเวลา 22.79%           ไม่แน่ใจ 6.92%
*หมายเหตุ   ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)











สรุปผลการสำรวจ : ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองในสายตาประชาชน

          สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง กลุ่มตัวอย่าง 1,186 คน ระหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคม 2564 พบว่า ประชาชนมองว่าการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่าง ๆ ณ วันนี้ แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกในพรรคการเมือง ร้อยละ 60.09 คิดว่าน่าจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.                  ในต้นปี 2565 ร้อยละ 57.86 หากมีการเลือกตั้งใหม่ก็จะทำให้ได้เปลี่ยนรัฐบาล ร้อยละ 58.31 ถ้ามีการเลือกตั้งคิดว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะได้คะแนนเสียงมากที่สุด ร้อยละ 32.94 รองลงมาคือ ก้าวไกล ร้อยละ 25.21 นายกรัฐมนตรีที่อยากได้ คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 28.67 รองลงมาคือ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 21.27  โดยภาพรวมประชาชนคิดว่าถึงเวลา             แล้วที่จะเลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 70.29
การขยับตัวของพรรคการเมืองทั้งพรรคเล็กพรรคใหญ่ในช่วงนี้ ดูเหมือนจะเป็นการเตรียมตัวรับการเลือกตั้งใหม่                ที่อาจจะเกิดขึ้นไวกว่ากำหนดเดิม ถึงแม้ประชาชนจะมองว่าการเคลื่อนไหวของแต่ละพรรคในช่วงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรคและเป็นเพียงการสร้างกระแส แต่ก็ต้องยอมรับว่าฝ่ายประชาชนเองก็ลุ้นอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว กระแสของพรรคเพื่อไทยยังคงไปได้ด้วยดี แต่กระแสนายกฯจากการสำรวจครั้งนี้กลับเป็นพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่มีกระแสดีมากขึ้น ต้องมารอดูกันว่าถ้ามีการเลือกตั้งจะมีการเปลี่ยนขั้วการเมืองได้จริงหรือไม่ เพราะการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และทุกความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองนั้นก็อยู่ในสายตาของประชาชนเสมอ

นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533

ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองไทยในช่วงเวลานี้ เช่น การลงพื้นที่ การประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครสส.                           การประกาศตัวว่าที่นายกรัฐมนตรี ล้วนเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงการยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่รัฐสภามีมติเห็นชอบวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส.                       โดยกำหนดให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแทนที่การใช้บัตรเลือกตั้งแบบ 1 ใบ รวมถึงมี สส.แบบแบ่งเขต  400 คน (จากเดิม 350 คน) และมี สส.บัญชีรายชื่อ 100 คน (จากเดิม 150 คน) ถึงแม้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะออกมายืนยันว่าไม่มีทางยุบสภา แต่การเมืองเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้ โดยตัวเร่งที่เป็นปัจจัยให้นายกรัฐมนตรี                     จะตัดสินใจยุบสภา คือเหตุภายในสภาเรื่องความแตกแยกภายในพรรคพลังประชารัฐที่ยากเกินจะเยียวยา ความไร้เสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล อุบัติเหตุทางการเมือง หรือเหตุภายนอกสภาที่อาจจะเป็นเหตุแทรกแซงได้ทุกเมื่อ
อาจารย์ชมพูนุท วิริยะสุนทร
อาจารย์ประจำโรงเรียนกฎหมายและการเมือง
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต


ที่มา: สวนดุสิตโพล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ