“ข้าราชการพลเรือน” ระบุ “การเมือง”เข้ามายุ่งเกี่ยวในงานประจำถึง 43.18%!!!
วันที่ 1 เมษายน ของทุกปีเป็น “วันข้าราชการพลเรือน” แต่ในปี 2552 ประเทศไทยต้องเผชิญกับการเมืองที่มีความขัดแย้งและ แตกแยก รวมทั้งเศรษฐกิจกอร์ปกับภาวะวิกฤต ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะข้าราชการพลเรือนผู้ที่ทำหน้าที่รับนโยบาย สู่การปฏิบัติให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ก็ได้รับผลกระทบทั้งจากภาวะการเมืองและเศรษฐกิจในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของข้าราชการพลเรือนทั่วประเทศ จำนวน 2,247 คน ระหว่างวันที่ 20-30 มีนาคม 2552 สรุปผลได้ดังนี้
1. “ภาวะการเมืองที่ร้อนแรง” เต็มไปด้วยความขัดแย้งส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการพลเรือน คือ
1 การเมืองเข้ามาแทรกแซงทำให้ขาดเสถียรภาพในการทำงานเนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาบ่อย 43.18%
2 นโยบายไม่แน่นอน การทำงานขาดความต่อเนื่อง 25.40%
3 รู้สึกเครียด/กังวลกับเหตุการณ์ความไม่สงบของบ้านเมือง 18.75%
4 ไม่อยากให้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชน 12.67%
2. “ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ” ณ วันนี้ ส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการพลเรือน คือ
1 ต้องมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น 46.15%
2 ต้องหารายได้พิเศษทำนอกเหนือจากงานประจำที่ทำอยู่ 30.77%
3 ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน /ไม่มีเงินพิเศษให้ 15.38%
4 งบประมาณโครงการต่างๆถูกตัด /ขาดโอกาสในการพัฒนา 7.70%
3. “ภาวะบ้านเมือง” ณ วันนี้ ข้าราชการพลเรือนควรปฏิบัติตัว คือ
1 วางตัวเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด 34.62%
2 ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด 26.92%
3 ยึดถือและปฏิบัติตามระเบียบ วินัยของการเป็นข้าราชการที่ดี 23.08%
4 ให้ทุกคนคำนึงถึงความสงบสุขของประเทศชาติเป็นสำคัญ 15.38%
--สวนดุสิตโพล--
-พห-