จากที่กระทรวงสาธารณสุขกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ( สสจ.) ทั่วประเทศเฝ้าระวังผู้ป่วยและควบคุมป้องกันโรคในพื้นที่ ช่วง 3 เดือนนี้ รวมทั้งขอความร่วมมือไปยังสถานศึกษา สถานที่ราชการ โรงงาน หรือหน่วยงานอื่นๆ และสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์วิธีการป้องกัน ควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ให้ประชาชนเข้าใจ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนดุสิต จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนใน เขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ในหัวข้อ สื่อสาร“ไข้หวัด 2009 ”อย่างไร? ให้มีประสิทธิภาพ จำนวนทั้งสิ้น 1,128 คน ระหว่างวันที่ 17-20 กรกฎาคม 2552 สรุปผลได้ดังนี้
1. เรื่องใด/เนื้อหาใด? ที่ประชาชนอยากรู้เกี่ยวกับ “ไข้หวัด 2009”
อันดับ 1 วิธีการป้องกันและการดูแลรักษา 49.76%
อันดับ 2 อาการเบื้องต้น /การสังเกตอาการ 25.84%
อันดับ 3 ลักษณะของการติดต่อ /การแพร่ระบาด 13.88%
อันดับ 4 วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสชนิด AH1N1 5.74%
อันดับ 5 ตัวเลขผู้ติดเชื้อ /ผู้เสียชีวิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ 4.78%
2. วิธีการใด? ที่สามารถเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับไข้หวัด 2009 ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
อันดับ 1 เผยแพร่ทางสื่อต่างๆ ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ฯลฯ 66.30%
อันดับ 2 เผยแพร่ลงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ มือถือ ฯลฯ 11.51%
อันดับ 3 เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ไปยังสถานที่ราชการ หน่วยงานต่างๆด้วยตนเอง 7.95%
อันดับ 4 จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักและตื่นตัวในการป้องกันโรคนี้ 7.67%
อันดับ 5 แจกแผ่นพับ /โบชัวร์ /ใบปลิว /คู่มือ 6.57%
3. หากกระทรวงสาธารณสุขมีการรายงานความก้าวหน้าที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารต่างๆของไข้หวัด 2009
ระหว่างการแถลงข่าว “รายวัน” กับ “รายสัปดาห์” ประชาชนอยากให้มีการแถลงแบบใด? มากกว่ากัน
อันดับ 1 อยากให้มีการแถลงรายวันมากกว่า 89.50%
เพราะ จะได้รู้ความคืบหน้าของโรคนี้อย่างต่อเนื่อง ทันเหตุการณ์ , เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนควรให้ความสำคัญเพราะจะต้อง ออกจากบ้านทุกวัน ,เป็นโรคระบาดที่มีความรุนแรง ฯลฯ
อันดับ 2 อยากให้มีการแถลงรายสัปดาห์มากกว่า 9.39%
เพราะ ทำให้ประชาชนไม่รู้สึกกังวลหรือตึงเครียดมากเกินไป ,น่าจะเห็นผล หรือตัวเลขต่างๆที่ชัดเจนกว่า เนื่องจากมีเวลาใน
การตรวจสอบข้อมูลมากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่อยากให้มีการแถลง 1.11%
เพราะ ไม่ได้ช่วยให้เหตุการณ์ต่างๆดีขึ้นกลับเป็นการเพิ่มความกังวลและหวาดกลัวให้กับประชาชนมากกว่า ฯลฯ
4. ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคไข้หวัด 2009 มากน้อยเพียงใด?
อันดับ 1 พอรู้บ้าง 80.04%
อันดับ 2 รู้เป็นอย่างดี 10.68%
อันดับ 3 ไม่ค่อยมีความรู้ 7.18%
อันดับ 4 ไม่มีความรู้เลย 2.10%
5. ผลกระทบที่ประชาชนได้รับโดยตรงจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัด 2009
อันดับ 1 เกิดความวิตกกังวล กลัวติดเชื้อโรคเมื่อออกนอกบ้าน 35.07%
อันดับ 2 ระมัดระวังสุขภาพมากขึ้น /ใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น 26.62%
อันดับ 3 หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนอยู่มากหรือที่แออัด 18.18%
อันดับ 4 สวมหน้ากากอนามัย 13.64%
อันดับ 5 ต้องหยุดงานเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในที่ทำงาน 6.49%
6. ความมั่นใจว่าจะไม่ติดโรคไข้หวัดเมื่อออกนอกบ้าน
อันดับ 1 ไม่มั่นใจ 61.54%
เพราะ เราไม่อาจรู้ได้ว่าคนรอบข้างคนไหนที่ติดเชื้อหรือเป็นโรคนี้บ้าง ,เชื้อแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมากทางอากาศและการ หายใจ ,มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฯลฯ
อันดับ 2 มั่นใจ 38.46%
เพราะ หลีกเลี่ยงการไปในที่ที่มีคนมากๆ ,สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรค ,ดูแลสุขภาพ ร่างกายเป็นอย่างดี ฯลฯ
7. ความรู้สึก เมื่อเห็นคนสวมหน้ากากอนามัย
อันดับ 1 มีความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม 42.05%
อันดับ 2 รู้สึกดีที่ประชาชนตื่นตัวและให้ความร่วมมือ 30.11%
อันดับ 3 ไม่แน่ใจว่าผู้ที่สวมหน้ากากเป็นผู้ติดเชื้อแล้วหรือไม่ 15.34%
อันดับ 4 เฉยๆ ไม่รู้สึกว่าน่ากลัวอะไร 12.50%
8. ประชาชนกล้าสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่?
อันดับ 1 กล้า 90.61%
อันดับ 2 ไม่กล้า 9.39%
--สวนดุสิตโพล--
-พห-