**ประชาชน 44.53% เห็นด้วยว่านักการเมืองควรเข้ามาดูแลปัญหาสังคม
ไม่ใช่เอาแต่ทะเลาะกัน และมุ่งเน้นไปที่ “การเมือง” มากเกินไป**
จากที่มีการนำเสนอข่าวอาชญากรรมที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน เช่น ข่าวฆ่าโหดแม่เฒ่าวัย 78 ปี คาร้านชำกลางวันแสกๆ หนุ่มปวช.ปี 3 ฆ่าหั่นศพคู่ขาทางแคมฟรอก รวมทั้งการฉกชิงวิ่งราว จี้ ปล้นตามสถานที่ต่างๆ สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนเป็นอันมาก ซึ่งมีเสียงสะท้อนจากบุคคลบางกลุ่มว่าการแก้ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้มุ่งเน้นไปที่การเมืองและเศรษฐกิจมากเกินไป ทำให้การแก้ปัญหาสังคมถูกละเลย “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑลที่มีต่อภัยสังคม ณ วันนี้ จำนวนทั้งสิ้น 1,118 คน ระหว่างวันที่ 25-26 กันยายน 2552 สรุปผลได้ดังนี้
เพราะ ทำให้ต้องระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น ,ไม่อยู่ในสถานที่หรือบริเวณที่เสี่ยงต่ออันตรายคนเดียว ,พยายามไม่ออกไปข้างนอกตอนกลางคืนหรืออกไปคนเดียว ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่ส่งผลกระทบ 48.66%เพราะ บริเวณที่อยู่ค่อนข้างปลอดภัย ,ระมัดระวังตัวเองอยู่แล้ว จะคอยสังเกตสิ่งรอบตัวตลอดเวลา ,จะมีเพื่อนทุกครั้งเมื่อออกไปทำธุระข้างนอก ฯลฯ
เพราะ นักการเมืองควรเข้ามาดูแลสังคมและประชาชน ไม่ใช่เอาแต่ทะเลาะกัน ,ประเทศจะพัฒนาได้ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารบ้านเมืองที่ดีและครอบคลุมทุกด้าน ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 34.69%เพราะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการเมืองหรือเป็นเพราะตัวบุคคลกันแน่ , มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาทางสังคม ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่เห็นด้วย 20.78%เพราะ ขึ้นอยู่กับคุณธรรม จริยธรรมและจิตสำนึกของแต่ละคน ,สังคมจะสงบสุขได้ต้องอาศัยความร่วมมือของคนทุกคน ฯลฯ
เพราะ ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องสำคัญของประชาชน , ถ้าเศรษฐกิจดี ประเทศชาติและประชาชนก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีตามไปด้วย ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 36.37%เพราะ ทั้งเศรษฐกิจและสังคมมีความเกี่ยวข้องกัน จากข่าวที่ออกมาจะเห็นว่ารัฐบาลมุ่งเน้นเรื่องเศรษฐกิจมากเกินไป ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่เห็นด้วย 21.75%เพราะ กระทรวงที่ดูแลรับผิดชอบปัญหาสังคมโดยตรง ควรมีบทบาทและทำงานให้ชัดเจนมากกว่านี้ ,ยังไม่เห็นท่าทีว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นจริง ฯลฯ
--สวนดุสิตโพล--