**ประชาชน 81.65% เห็นว่า “ถึงเวลาแล้ว” ที่ประเทศไทยจะต้องทบทวน เปลี่ยนแปลงแนวทางในการพัฒนาประเทศ**
จากวิกฤติเศรษฐกิจและวิกฤติทางการเมืองที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ณ ขณะนี้ เป็นสิ่งท้าทายต่อรัฐบาลในการทำให้สังคมกลับสู่ความร่ม เย็น ซึ่งนายกฯได้มอบหมายให้ สสส. เป็นตัวประสานเชื่อมโยงกับทุกฝ่ายในการจัดทำตัวชี้วัดทางสังคม เพราะในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ ฉบับที่ 11 ที่กำลังจะประกาศใช้ในอีก 2 ปีข้างหน้า ได้กำหนดชัดถึงการนำเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแกนหลัก โดยวัดทั้งประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมที่ครอบคลุมถึงมิติการศึกษา สุขภาพ และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวน ดุสิต ร่วมกับรายการ “ก่อนตัดสินใจ” และ สสส. จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อการจัดทำตัวชี้วัดทางสังคม จำนวน 1,379 คน ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2552 สรุปผลได้ดังนี้
เพราะ ในช่วงที่ผ่านมาประเทศชาติต้องประสบปัญหาต่างๆที่รุมเร้าเข้ามารอบด้านพร้อมๆกัน ฯลฯ
อันดับ 2 ยังไม่ถึงเวลา 9.63%เพราะ ประเทศไทยยังมีปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องการให้แก้ไขก่อน เช่น การชุมนุม ความแตกแยก เป็นต้น ,
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจเตรียมตัวไม่ทันหรือยังไม่มีความพร้อม ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 8.72%เพราะ ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่า หากทุกคนร่วมมือกันประเทศชาติก็จะน่าอยู่ยิ่งขึ้น ฯลฯ
สสส. จับมือรัฐบาลผลักดันดัชนีความสุขในการพัฒนาประเทศดันเข้าแผนเข้าแผนพัฒนา ฉบับ11 ตั้งกก.กิจกรรมเพื่อสังคม
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องแนวคิดในการเปลี่ยนแปลงดัชนีชี้วัดการพัฒนาประเทศจากการวัดด้วย จีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ มาเป็นการวัดด้วยดัชนีความสุขว่าจริงๆแล้ว ไม่ต้องการเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งแต่เป็นการผสมผสานกันทั้ง สองอย่างเพราะเวลาวัดดัชนีความสุขหรือดัชนีพัฒนาประเทศ ต้องวัด 2 ระดับ คือ 1 ระดับประเทศโดยจะดูว่ามีนโยบายพัฒนาด้านอะไรบ้าง เช่น เรื่องการศึกษา เรื่องสุขภาพ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องการประกอบอาชีพ การทำมาหากิน เรื่องการกระจายรายได้ ส่วนระดับที่ 2 คือการวัด ในระดับพื้นที่เพราะแต่ละจังหวัดปัญหาไม่เหมือนกัน ปัญหาในกรุงเทพฯเมื่อไปเทียบกับเชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี ปัญหาก็ ไม่เหมือนกัน
ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่าน่าดีใจที่ทุกส่วนโดยเฉพาะสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.ได้เป็นผู้มี บทบาทสำคัญในการผลักดันเรื่องดัชนีทางเลือก หรือดัชนีความสุข โดยทางรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีมีนโยบายที่ ชัดเจนโดยในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ที่กำลังจัดทำอยู่ ได้บรรจุเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเอาไว้ด้วย นอกจากนี้แล้วในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 2553-2555 จะมีแผนงานและงบประมาณที่ ชัดเจน ในเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วย เช่น เรื่องคุณภาพการศึกษา หลักประกันสุขภาพ การพัฒนาพลังงานทางเลือก การลดผลกระทบสิ่ง แวดล้อม หรือในเรื่องเศรษฐกิจ เช่น การท่องเที่ยวในเชิงสร้างสรรค์ เชิงอนุรักษ์ศิลปะและสิ่งแวดล้อม เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม เช่น จะมีคณะกรรมการส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมแห่งชาติ โดยนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน แล้วดึงบุคคลที่เกี่ยวข้องในภาคสังคมเข้ามาร่วมขับ เคลื่อนด้วยกัน.
--เอแบคโพลล์--