สวนดุสิตโพลล์: การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง และ การเจรจา รอบ 3

จากที่แกนนำเสื้อแดงประกาศต่อสู้ถึงขั้นแตกหักกับรัฐบาล โดยตั้งเป้าระดมกลุ่มคนเสื้อแดง 1 ล้านคน เพื่อหวังโค่นล้มรัฐบาลภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่กลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อและยิ่งบีบให้นายกฯอภิสิทธิ์ยุบสภา จนมีการเจรจาไปแล้วถึง 2 รอบ และยังเป็นที่จับตามองกันว่าจะมีการเจรจารอบ 3 เกิดขึ้นหรือไม่ โดยสังคมส่วนใหญ่ต่างหวังและต้องการเห็นทางออกของประเทศ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตจึงได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวน 1,442 คน ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2553 สรุปผลได้ดังนี้

อันดับ 1 ควรมี 42.39%

เพราะ จะได้มีการพูดคุยกันอย่างเห็นหน้าเห็นตา หากมีเรื่องใดที่ยังไม่เข้าใจกันก็ควรพูดคุยตกลงกันให้รู้เรื่อง ,

อาจได้ข้อสรุปหรือมีทางออกที่พึงพอใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ฯลฯ

อันดับ 2 ไม่ควรมี 38.52%

เพราะ เจรจาไปก็เสียเวลาเปล่า เพราะต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง คงไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน ฯลฯ

อันดับ 3 มีก็ได้ไม่มีก็ได้ 19.09%

เพราะ ทำใจกับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้แล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ถ้าผลเจรจาตกลงกันได้ด้วยดี

และเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองก็ยินดี ฯลฯ

อันดับ 1 ไม่ยุบสภา /ให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไป 43.03%

เพราะ ควรรอให้รัฐบาลได้ทำงานจนครบวาระแล้วค่อยเลือกตั้งใหม่ ,เศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นไม่ควรนำ

ความขัดแย้งทางการเมืองมาทำให้เศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก ,สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายจนถึงขั้นต้องยุบสภา ฯลฯ

อันดับ 2 ยุบสภาดีกว่า 30.10%

เพราะ จะได้เป็นการเริ่มต้นใหม่และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ,แข่งขันกันตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าผลออกมาไม่ว่า

ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะก็ต้องยอมรับกับผลนั้น ฯลฯ

อันดับ 3 ยุบสภาหรือไม่ยุบสภาก็ได้ 26.87%

เพราะ หากระบบการเมืองไทยยังไม่มีกฎ กติกา หรือข้อกำหนดที่ชัดเจนไม่ว่าจะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม ฯลฯ

อันดับ 1 หากการชุมนุมยังยืดเยื้อต่อไปก็จะส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจ การทำมาหากิน และการเดินทางของประชาชน 44.35% อันดับ 2 รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะยุติลงอย่างไร? และเมื่อใด? 29.88% อันดับ 3 อยากให้แกนนำเสื้อแดงใช้วิธีการเรียกร้องอย่างสันติและไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชน 16.53% อันดับ 4 เป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้กับทหาร ตำรวจ แทนที่จะไปป้องกันประเทศชาติหรือจับโจรผู้ร้าย 9.24% 4. ประชาชนคิดว่าแนวทางใด? ที่จะทำให้ประเทศชาติสงบสุข อันดับ 1 ทุกฝ่ายต้องอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด เห็นแก่ความเป็นคนไทยด้วยกัน 37.41% อันดับ 2 ทุกฝ่ายต้องจริงใจต่อกันในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ 28.22% อันดับ 3 ใช้แนวทางสันติวิธีในการชุมนุมและรัฐบาลเองก็ต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาหรือสลายม็อบ 19.67% อันดับ 4 ประชาชนต้องมีวิจารณญาณ มีสติ ไม่ด่วนสรุปหรือตัดสินเอาเอง 14.70% 5. จากสถานการณ์ขณะนี้ส่งผลต่อประชาชนในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ใกล้จะถึงหรือไม่? อันดับ 1 ส่งผล 65.75%

เพราะ รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นบ้านเมืองและคนไทยต้องมาทะเลาะกัน อีกทั้งยังกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยในช่วงเทศกาล

เพราะอาจมีผู้ไม่หวังดีก่อเหตุร้ายขึ้นได้ ฯลฯ

อันดับ 2 ไม่ส่งผล 21.83%

เพราะ ไม่นำเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือทำให้วันหยุดสงกรานต์ต้องหมดสนุก ,ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางไปเที่ยวและกลับบ้าน

ต่างจังหวัด,เป็นเทศกาลสำคัญของคนไทย ฯลฯ

อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 12.42%

เพราะ จากเหตุการณ์ปิดแยกราชประสงค์อาจทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อต่อไป ,ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นพี่น้องจากต่างจังหวัด

อาจกลับบ้านไปอยู่กับลูกหลานในช่วงสงกรานต์ทำให้จำนวนผู้ชุมนุมบางตาลง หรือไม่มีสถานการณ์ใดที่น่าเป็นห่วง

ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ฯลฯ

--สวนดุสิตโพล--

---