สวนดุสิตโพลล์: ประชาชนคิดอย่างไร?กรณี ข่าวฟิล์ม กับ แอนนี่

ข่าวผลสำรวจ Thursday September 23, 2010 13:00 —สวนดุสิตโพล

จากกระแสข่าววงการบันเทิงที่เป็นที่สนใจของคนทั่วประเทศขณะนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฟิล์ม รัฐภูมิ กับ แอนนี่ บรู๊ค ที่คลอดลูกชายมาได้ 3 เดือนแล้ว จนกลายเป็นกระแสที่ถึงขั้นต้องมีการพิสูจน์ DNA เพื่อหาข้อเท็จจริง “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑลที่สนใจติดตามข่าวนี้ จำนวน 1,276 คน ระหว่างวันที่ 20-23 กันยายน 2553 สรุปผลได้ดังนี้

1. ประชาชนคิดว่าการนำเสนอข่าวของสื่อ กรณี “ข่าวฟิล์ม กับ แอนนี่” เป็นอย่างไร?
อันดับ 1          มากเกินไป            62.07%

เพราะ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อทุกแขนงมีการนำเสนอข่าวฟิล์มกับแอนนี่อย่างต่อเนื่อง ,ถึงทั้ง 2 คนจะเป็นดาราแต่ก็ควรถือเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ควรนำมาเปิดเผย ฯลฯ

อันดับ 2          เหมาะสมแล้ว          32.18%

เพราะ ทั้ง 2 คนเป็นคนในวงการทั้งคู่ ถือเป็นบุคคลสาธารณะที่เยาวชนหรือเด็กมักทำตาม ,เป็นหน้าที่ของสื่อที่จะต้องสะท้อนความจริงออกมา ฯลฯ

อันดับ 3          น้อยเกินไป             5.75%

เพราะ ประเด็นที่นำเสนอไม่มีอะไรใหม่ๆ ,นำเสนอข่าวเพียงด้านเดียวที่เป็นการตอกย้ำในสิ่งที่ไม่ดี ฯลฯ

2. ประชาชนคิดอย่างไร ? กรณี “ข่าวฟิล์ม กับ แอนนี่”
อันดับ 1          อยากให้ออกมาพูดความจริง ช่วยกันหาทางแก้ไขจะดีกว่าเพราะเด็กที่เกิดขึ้นมาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร       29.61%
อันดับ 2          เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป แต่บังเอิญทั้ง 2 คนเป็นดาราจึงกลายเป็นข่าวคึกโครม          27.34%
อันดับ 3          อยากให้มีการตรวจ DNA โดยเร็ว เพื่อจะได้ยุติเรื่องต่างๆที่คลางแคลงใจลง                       26.44%
อันดับ 4          เห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย เพราะกรณีนี้กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจและสื่อมวลชนติดตามอย่างใกล้ชิด     9.55%
อันดับ 5          เป็นเรื่องส่วนตัว ควรปล่อยให้ฟิล์มกับแอนนี่ตกลงกันเองจะดีกว่า                                  7.06%

3. ประชาชนคิดว่าการนำเสนอข่าวของสื่อ กรณี “ข่าวฟิล์ม กับ แอนนี่” เป็นอย่างไร?
อันดับ 1          ไม่เชื่อทั้ง 2 ฝ่าย            69.16%

เพราะ เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและการงาน การให้ข้อมูลต่างๆอาจไม่เป็นความจริงเท่าที่ควร ฯลฯ

อันดับ 2          เชื่อแอนนี่มากกว่า            19.54%

เพราะ ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงฝ่ายหญิงคงไม่กล้าออกมาพูด ผู้เป็นแม่ย่อมรักและต้องการปกป้องลูก ฯลฯ

อันดับ 3          เชื่อฟิล์มมากกว่า             11.30%

เพราะ คิดว่าฟิล์มมีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะยอมรับในสิ่งที่ทำลงไป ,ไม่คุ้มกับชื่อเสียงที่มีมา ฯลฯ

4. ประชาชนสงสารหรือเห็นใจฝ่ายใดมากกว่ากัน?
อันดับ 1          สงสารและเห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายพอๆกัน            55.17%

เพราะ ทั้ง 2 ฝ่ายคงจะเครียดพอๆกัน ,สังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆโดยยังไม่รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ฯลฯ

อันดับ 2          สงสารและเห็นใจแอนนี่มากกว่า               24.89%

เพราะ ช่วงตั้งท้องคงลำบากเพราะต้องดูแลตนเองและลูกเพียงลำพัง , ได้รับผลกระทบทางจิตใจพอสมควร ฯลฯ

อันดับ 3          สงสารและเห็นใจฟิล์มมากกว่า                10.75%

เพราะ สังคมมองว่าฝ่ายชายต้องเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบ, ฟิล์มเป็นดาราที่มีชื่อสียงและมีแฟนคลับมาก ,ถูกยกเลิกงาน ฯลฯ

อันดับ 4          ไม่สงสารและไม่เห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย              9.19%

เพราะ เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการยินยอมของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้คนรอบข้างหรือคนใกล้ชิดต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ฯลฯ

5. ประชาชนคิดว่า กรณี นี้ควรมีการตรวจ DNA หรือไม่?
อันดับ 1          ควรมีการตรวจ DNA           74.75%

เพราะ จะได้รู้ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร? เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย ฯลฯ

อันดับ 2          ตรวจก็ได้ไม่ตรวจก็ได้          19.51%

เพราะ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีทั้งผลดีและผลเสียที่กระทบต่อชีวิตและหน้าที่การงานของทั้งคู่ ฯลฯ

อันดับ 3          ไม่ควรมีการตรวจ DNA          5.74%

เพราะ เป็นสิทธิส่วนบุคคล เป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรนำมาเปิดเผย ฯลฯ

6. “ทางออก” ที่ดีที่สุดของ กรณี นี้ควรทำอย่างไร?
อันดับ 1          ตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง                        62.12%
อันดับ 2          พูดความจริง /พูดเรื่องจริง /ไม่โกหก                    18.83%
อันดับ 3          หาคนกลางหรือผู้ใหญ่ที่นับถือของทั้ง 2 ฝ่าย มาไกล่เกลี่ย       11.68%
อันดับ 4          สื่อหยุดนำเสนอข่าว ปล่อยให้เรื่องจบลงไปเอง               7.37%

7. บทเรียน /สิ่งที่สังคมได้รับจากกรณีนี้ คือ
อันดับ 1          จะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ คำนึงถึงผลที่จะตามมาว่าคุ้มกันหรือไม่               36.64%
อันดับ 2          ผู้ที่เป็นดารา หรือ บุคคลสาธารณะจะต้องระมัดระวังตัวให้มากกว่าคนทั่วไป          31.55%
อันดับ 3          สื่อมวลชนควรนำเสนอข่าวนี้อย่างเหมาะสม เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน           19.33%
อันดับ 4          ผู้ปกครองหรือครูอาจารย์สามารถนำกรณีนี้ไปเป็นกรณีตัวอย่างสำหรับสอนเด็กได้       12.48%

--สวนดุสิตโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ