ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์                                                  ที่ สธ/น. 19/2543                              เรื่อง   กำหนดปัจจัยในการพิจารณาความร้ายแรงของพฤติกรรม                                  อันเป็นลักษณะต้องห้ามสำหรับบุคคลที่เป็นหรือจะเป็น                                        ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์                                  ___________________________________          อาศัยอำนาจตามความในข้อ 5 วรรคสาม  แห่งประกาศกระทรวงการคลัง  เรื่อง  การกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องขอรับความเห็นชอบบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่  ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543  และข้อ 4 วรรคสาม แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  ที่ กธ. 21/2543  เรื่อง  หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขอรับความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบบุคคลที่เป็นหรือจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์  ลงวันที่    12 พฤษภาคม 2543  สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้          ข้อ 1   ในประกาศนี้                    "ผู้ถือหุ้นรายใหญ่"  หมายความว่า   บุคคลที่ถือหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมเกินกว่าร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทหลักทรัพย์นั้น                    "ประกาศกระทรวงการคลัง"  หมายความว่า  ประกาศกระทรวงการคลัง  เรื่อง  การกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องขอรับความเห็นชอบบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่  ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543                    "ประกาศคณะกรรมการ"  หมายความว่า  ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  ที่ กธ. 21/2543  เรื่อง  หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขอรับความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบบุคคลที่เป็นหรือจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์  ลงวันที่12 พฤษภาคม 2543                    "สำนักงาน" หมายความว่า   สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์            ข้อ 2   เพื่ออนุวัติให้เป็นไปตามข้อ 5 วรรคสาม  แห่งประกาศกระทรวงการคลัง และข้อ 4 วรรคสาม แห่งประกาศคณะกรรมการ   สำนักงานจึงกำหนดให้ใช้ปัจจัยต่อไปนี้ในการพิจารณาระดับความร้ายแรงของพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่เป็นหรือจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์                    (1)  ปัจจัยหลัก ซึ่งหมายถึง ข้อเท็จจริงประเภทที่สำนักงานให้น้ำหนักในการพิจารณามากกว่าข้อเท็จจริงอื่น ได้แก่(ก)    ขอบเขตของผลกระทบจากพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้าม  เช่น มีผลกระทบต่อตลาดเงินหรือตลาดทุน กระทบต่อประชาชนโดยรวม หรือกระทบต่อบุคคลเฉพาะกลุ่ม เป็นต้น                           (ข)  นัยสำคัญของพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้าม เช่น จำนวนเงินที่เกี่ยวข้องปริมาณธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น                           (ค)  ผู้รับประโยชน์จากผลของพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้าม(2)    ปัจจัยรอง ซึ่งหมายถึง ข้อเท็จจริงประเภทที่สำนักงานใช้เพื่อการเพิ่มหรือลดน้ำหนักในการพิจารณาข้อเท็จจริงโดยรวม ได้แก่(ก)       ความเกี่ยวข้องของบุคคลต่อพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้าม  เช่น เป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน เป็นต้น                           (ข)  ความซับซ้อนของลักษณะการกระทำหรือเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำ เช่นการใช้ชื่อบุคคลอื่น หรือการตั้งบริษัทอำพราง เป็นต้น          (ค)  ประวัติพฤติกรรมอันเป็นลักษณะต้องห้ามในเรื่องเดียวกันในอดีต          (ง)  การจงใจฝ่าฝืนหรือละเลยกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง          (จ)  พฤติกรรมอื่นในภายหลัง  เช่น  ให้ข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีหรือการดำเนินคดี หรือปิดบังอำพรางหรือทำลายพยานหลักฐานในคดีหรือให้การเท็จเป็นต้น          ข้อ 3   กำหนดระยะเวลาห้ามมิให้บุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศกระทรวงการคลัง และประกาศคณะกรรมการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์มีดังต่อไปนี้  =====================================================================================  ประเภทของลักษณะต้องห้าม     ระดับความร้ายแรงของพฤติกรรม  ระยะเวลาสูงสุดที่จะพิจารณาไม่ให้ความห็นชอบ    =======================================================================================  ข้อ 4(3) (4) (5) (6) (7)  เล็กน้อย                    หนึ่งปี  (8) (9) (10) หรือ (10)  แห่งประกาศกระทรวงการคลัง   ปานกลาง                   สามปี   และข้อ 3(3) (4) (5) (6)  (7) (8) (9) หรือ (10)  แห่งประกาศคณะกรรมการ      รุนแรง                     ห้าปี    ===================================================================================  ข้อ 4(11) แห่งประกาศ       เล็กน้อย                    หนึ่งปี  กระทรวงการคลังและ         ปานกลาง                   สองปี  ข้อ 3 (3) (4) (5) (6)   (7) (8) (9) (10)  แห่งประกาศคณะกรรมการ      รุนแรง                     สามปี      ข้อ 3(11) แห่งประกาศคณะกรรมการ =====================================================================================          ข้อ 4   ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป                                        ประกาศ   ณ   วันที่   30   พฤษภาคม   พ.ศ. 2543                                                          (นายประสาร  ไตรรัตน์วรกุล)                                                         เลขาธิการ                                         สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์-ยก-