หลักเกณฑ์ในการขึ้นทะเบียนเจ้าหน้าที่การตลาด

ข่าวกฏหมายและประกาศ Thursday December 21, 2000 14:36 —ประกาศ ก.ล.ต.

                    ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สธ. 67/2543
เรื่อง หลักเกณฑ์ในการขึ้นทะเบียนเจ้าหน้าที่การตลาด
____________________________
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 10 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 42/2543 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และการค้าหลักทรัพย์ ที่มิใช่ตราสารแห่งหนี้ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2543 ข้อ 16แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 43/2543 เรื่อง หลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการในการค้าหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2543 และข้อ 2 และข้อ 3 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 61/2543เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการควบคุมการปฏิบัติงานในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2544 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ในประกาศนี้
"บริษัทหลักทรัพย์" หมายความว่า บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ หรือการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
"เจ้าหน้าที่การตลาด" หมายความว่า เจ้าหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่ติดต่อชักชวน หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนแก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดการซื้อขายหลักทรัพย์ใดหลักทรัพย์หนึ่ง
"ตราสารทุน" หมายความว่า หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ ใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (transferable subscription right) และใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิง (depositary receipt)
"ตราสารหนี้" หมายความว่า หุ้นกู้ ตั๋วเงินที่เป็นหลักทรัพย์ และพันธบัตรที่กระทรวงการคลังไม่ได้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย
"ตราสารที่มี leverage" หมายความว่า ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (derivative warrant) และออปชันที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือบริษัทย่อยออก
"สถาบันฝึกอบรม" หมายความว่า สถาบันพัฒนาบุคลากรธุรกิจหลักทรัพย์
"สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
หมวด 1
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของเจ้าหน้าที่การตลาด
ข้อ 3 เจ้าหน้าที่การตลาดต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) มีคุณวุฒิทางการศึกษา และมีประสบการณ์ในการทำงานตามเกณฑ์ต่อไปนี้
(ก) สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไปหรือเทียบเท่าที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รับรอง หรือ
(ข) สำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาและมีประสบการณ์ในการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่าสองปี และ
(2) ผ่านการทดสอบหลักสูตรการเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดตามประเภทหลักทรัพย์ที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนจากสถาบันฝึกอบรมมาแล้วเป็นระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปีในวันที่ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน ยกเว้นบุคคลตามที่กำหนดในข้อ 4
ข้อ 4 ให้บุคคลที่ดำรงตำแหน่งต่อไปนี้ของบริษัทหลักทรัพย์เพียงหนึ่งรายได้รับยกเว้นไม่ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดในข้อ 3(2) หากบุคคลดังกล่าวได้ผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่การตลาดตามประเภทที่ขอขึ้นทะเบียนจากสถาบันฝึกอบรมมาแล้วเป็นระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปีในวันที่ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน
(1) กรรมการผู้จัดการ หรือ
(2) ผู้บริหารสูงสุดของสายงานที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทหลักทรัพย์
ข้อ 5 เจ้าหน้าที่การตลาดต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(1) เป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ หรือเป็นบุคคลล้มละลาย
(2) อยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์กฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับธุรกิจทางการเงินในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศ โดยหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายนั้น ทั้งนี้ ในความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์หรือการบริหารงานที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ฉ้อฉล หรือทุจริต
(3) ไม่มีประวัติดังต่อไปนี้ในช่วงระยะเวลาสามปีย้อนหลังนับแต่วันที่ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน
(ก) เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต
(ข) เคยต้องคำพิพากษาว่ากระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์กฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับธุรกิจทางการเงินในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศ ทั้งนี้ ในความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือการบริหารงานที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง ฉ้อฉล หรือทุจริต
(ค) เคยถูกเปรียบเทียบปรับในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในส่วนที่ว่าด้วยการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือกฎหมายต่างประเทศในความผิดทำนองเดียวกัน
(ง) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน อันเนื่องมาจากการกระทำโดยทุจริต
(จ) เคยถูกเพิกถอนการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด
(ฉ) เคยมีการทำงานที่ส่อไปในทางไม่สุจริตในลักษณะที่อาจเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับทรัพย์
หมวด 2
การขึ้นทะเบียนและการต่ออายุ
ข้อ 6 ให้บุคคลที่ประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานตามแบบ 113-1 ที่แนบท้ายประกาศนี้ พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดตามประกาศว่าด้วยการกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ
ข้อ 7 สำนักงานจะรับขึ้นทะเบียนเจ้าหน้าที่การตลาดแยกตามประเภทหลักทรัพย์ที่ผู้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนประสงค์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน ดังนี้
(1) เจ้าหน้าที่การตลาดประเภทตราสารทุน
(2) เจ้าหน้าที่การตลาดประเภทตราสารหนี้
(3) เจ้าหน้าที่การตลาดประเภทตราสารที่มี leverage
ข้อ 8 การขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือการต่ออายุการขึ้นทะเบียนตามประกาศนี้ ให้มีกำหนดระยะเวลาสองปี โดยมีวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดตามที่สำนักงานกำหนดไว้ในหนังสือรับขึ้นทะเบียนเจ้าหน้าที่การตลาดหรือหนังสือรับต่ออายุการขึ้นทะเบียนนั้น
ข้อ 9 สำนักงานจะแจ้งผลการพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือคำขอต่ออายุการขึ้นทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่สำนักงานได้รับเอกสารหลักฐานจากบุคคลที่ขอขึ้นทะเบียนหรือขอต่ออายุการขึ้นทะเบียน ถูกต้องครบถ้วนแล้ว และในกรณีที่สำนักงานไม่รับขึ้นทะเบียนหรือไม่ต่ออายุการขึ้นทะเบียนบุคคลใด สำนักงานจะแจ้งเหตุผลไปพร้อมกันด้วย
ข้อ 10 เจ้าหน้าที่การตลาดที่ประสงค์จะต่ออายุการขึ้นทะเบียนให้ยื่นคำขอต่ออายุการขึ้นทะเบียนตามแบบ 113-1 ที่แนบท้ายประกาศนี้ต่อสำนักงานล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวัน ก่อนวันที่ระยะเวลาการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดตามข้อ 8 จะสิ้นสุดลง พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดตามประกาศว่าด้วยการกำหนดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล การจดทะเบียน และการยื่นคำขอต่าง ๆ
เจ้าหน้าที่การตลาดที่จะได้รับการพิจารณาต่ออายุการขึ้นทะเบียนตามวรรคหนึ่งต้องเป็นไปตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 5
(2) ผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่การตลาดตามประเภทที่ขอต่ออายุ (refresher course) จากสถาบันฝึกอบรมมาแล้วเป็นระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปีในวันที่ยื่นคำขอต่ออายุการขึ้นทะเบียน
(3) ไม่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักการปฏิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือระหว่างระยะเวลาที่สำนักงานสั่งไม่รับพิจารณาคำขอต่ออายุการขึ้นทะเบียน ทั้งนี้ ในกรณีที่ถูกสั่งพักการปฏิบัติงานและสำนักงานได้กำหนดเงื่อนไขในการต่ออายุการขึ้นทะเบียนไว้ บุคคลดังกล่าวจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่สำนักงานกำหนดแล้วด้วย
ข้อ 11 เจ้าหน้าที่การตลาดที่อายุการขึ้นทะเบียนสิ้นสุดลง โดยมิได้ยื่นคำขอต่ออายุการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานตามข้อ 10 หากได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานภายในระยะเวลาไม่เกินสามเดือนนับแต่วันที่อายุการขึ้นทะเบียนนั้นสิ้นสุดลง ให้เจ้าหน้าที่การตลาดดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียนตามเกณฑ์ที่กำหนดในวรรคสองของข้อ 10 ได้
ข้อ 12 ในการพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือคำขอต่ออายุการขึ้นทะเบียน สำนักงานอาจแจ้งให้บุคคลที่ขอขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือขอต่ออายุการขึ้นทะเบียน มาชี้แจง หรือส่งเอกสารหลักฐานอื่นเพิ่มเติม ได้ตามที่เห็นสมควรภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนด ในกรณีบุคคลที่ขอขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือขอต่ออายุการขึ้นทะเบียน ไม่มาชี้แจง ไม่ส่งเอกสาร หรือจัดส่งเอกสารไม่ถูกต้องครบถ้วน ภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนดตามวรรคหนึ่ง สำนักงานจะถือว่าบุคคลนั้นไม่ประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือไม่ประสงค์จะขอต่ออายุการขึ้นทะเบียน แล้วแต่กรณี อีกต่อไป
ข้อ 13 ในกรณีที่เจ้าหน้าที่การตลาดที่ได้รับขึ้นทะเบียนมีความประสงค์จะแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เคยยื่นคำขอไว้ตามข้อ 6 หรือข้อ 10 ให้เจ้าหน้าที่การตลาดดังกล่าวยื่นคำขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่อสำนักงานตามแบบ 113-2 ที่แนบท้ายประกาศนี้
หมวด 3
มาตรการบังคับ
ข้อ 14 เจ้าหน้าที่การตลาดใดมีการทำงานที่แสดงถึงการขาดจรรยาบรรณหรือขาดมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่เยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพในลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้ สำนักงานอาจพิจารณาสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อ 15
(1) ปฏิบัติงานด้วยความไม่ซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่คำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้า
(2) เบียดบังหรือแสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ โดยมิชอบจากการปฏิบัติงานไม่ว่าเพื่อตนเอง บริษัทหลักทรัพย์ หรือบุคคลอื่น
(3) ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ไม่ว่าเพื่อตนเองหรือบุคคลอื่นโดยใช้บัญชีของลูกค้า
(4) ให้คำแนะนำหรือข้อมูลที่อาจก่อให้ลูกค้าเกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์หรือมีเจตนาหลอกลวงลูกค้า
(5) แนะนำให้ลูกค้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ตนเองหรือบริษัทหลักทรัพย์มีส่วนได้เสียหรือมีโอกาสที่จะมีส่วนได้เสียในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ โดยไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการมีส่วนได้เสียดังกล่าว
(6) รับมอบอำนาจจากลูกค้าในการดำเนินการเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ นอกเหนือจากหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทหลักทรัพย์
(7) ไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบถึงฐานะของบริษัทหลักทรัพย์ ในกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์จะทำการซื้อขายหลักทรัพย์กับลูกค้าในฐานะที่บริษัทหลักทรัพย์เป็นคู่สัญญา
(8) ไม่รักษาความลับของลูกค้า นำข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์หรือข้อมูลทางการเงิน ของลูกค้า ไปเปิดเผยให้บุคคลอื่นทราบ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้าหรือมิใช่กรณีที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายหรือมีกฎหมายให้อำนาจกระทำได้
(9) ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าในลักษณะที่เป็นการยุยงหรือสนับสนุนให้ลูกค้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์บ่อยครั้ง (churning)
(10) ขาดความระมัดระวังและการเอาใจใส่ในการเตรียมคำแนะนำ ให้คำแนะนำโดยขาดหลักวิชาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักทรัพย์ หรือให้คำแนะนำไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการลงทุน ระดับความรู้ความเข้าใจหรือประสบการณ์เกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ ฐานะการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า
(11) ไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงและลักษณะของหลักทรัพย์ให้ลูกค้าทราบ ความใน (10) และ (11) ของวรรคหนึ่ง ไม่ถือเป็นลักษณะของการขาดจรรยาบรรณหรือขาดมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่เยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพของเจ้าหน้าที่การตลาด ในกรณีที่ลูกค้าเป็นลูกค้าสถาบันดังต่อไปนี้
(1) ธนาคารพาณิชย์
(2) บริษัทเงินทุน
(3) บริษัทหลักทรัพย์
(4) บริษัทเครดิตฟองซิเอร์
(5) บริษัทประกันภัย
(6) นิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้นซึ่งไม่ใช่นิติบุคคลตาม (8)
(7) สถาบันการเงินระหว่างประเทศ
(8) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
(9) กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
(10) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
(11) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
(12) กองทุนรวม
(13) นิติบุคคลที่มีเงินลงทุนตามงบการเงินปีล่าสุดที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบแล้วตั้งแต่หนึ่งร้อยล้านบาทขึ้นไป
(14) นิติบุคคลซึ่งมีผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลตาม (1) ถึง (13) ถือหุ้นรวมกันเกินกว่าร้อยละเจ็ดสิบห้าของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด
(15) ผู้ลงทุนต่างประเทศซึ่งมีลักษณะเดียวกับผู้ลงทุนตาม (1) ถึง (14) โดยอนุโลม
ข้อ 15 เจ้าหน้าที่การตลาดใดมีการทำงานที่แสดงถึงการขาดจรรยาบรรณหรือขาดมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ 14 สำนักงานอาจพิจารณาสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) กำชับ
(2) ภาคทัณฑ์
(3) สั่งพักการปฏิบัติงาน หรือ
(4) เพิกถอนการขึ้นทะเบียน
ในการสั่งพักการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่การตลาดตามวรรคหนึ่ง สำนักงานอาจกำหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไข ในการรับพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหรือคำขอต่ออายุการขึ้นทะเบียน ของบุคคลดังกล่าวในคราวต่อไปด้วยก็ได้
ข้อ 16 ในกรณีที่ปรากฏต่อสำนักงานว่าเจ้าหน้าที่การตลาดใดขาดคุณสมบัติตามข้อ 3 หรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 5 สำนักงานจะพิจารณาเพิกถอนการขึ้นทะเบียนเจ้าหน้าที่การตลาดนั้น
หมวด 4
บทเฉพาะกาล
ข้อ 17 ให้ถือว่าเจ้าหน้าที่การตลาดที่ได้รับใบอนุญาตหรือที่ได้รับการต่ออายุใบอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยใบอนุญาตเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด พ.ศ. 2543 อยู่แล้วก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ เป็นเจ้าหน้าที่การตลาดประเภทตราสารทุนที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานตามประกาศนี้ โดยให้มีระยะเวลาการขึ้นทะเบียนเท่ากับระยะเวลาคงเหลือที่เจ้าหน้าที่การตลาดนั้นได้รับใบอนุญาตหรือได้รับการต่ออายุใบอนุญาต จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แล้วแต่กรณี
ข้อ 18 ในกรณีเจ้าหน้าที่การตลาดที่ได้รับใบอนุญาตหรือได้รับการต่ออายุใบอนุญาตตามข้อ 17 ดำรงตำแหน่งกรรมการหรือกรรมการผู้จัดการของบริษัทหลักทรัพย์อยู่ในวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ และเจ้าหน้าที่การตลาดดังกล่าวไม่เคยผ่านการอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยใบอนุญาตเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด พ.ศ. 2543 ให้ระยะเวลาการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดดังกล่าวสิ้นสุดลงเมื่อเจ้าหน้าที่การตลาดนั้นพ้นจากการเป็นกรรมการหรือกรรมการผู้จัดการของบริษัทหลักทรัพย์นั้น หรือเมื่อใบอนุญาตของเจ้าหน้าที่การตลาดนั้นสิ้นอายุลง และหากเจ้าหน้าที่การตลาดดังกล่าวประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดกับสำนักงานอีกต่อไป เจ้าหน้าที่การตลาดนั้นจะต้องผ่านการทดสอบหลักสูตรตามข้อ 3(2) ของประกาศนี้ด้วย เว้นแต่เจ้าหน้าที่การตลาดนั้นเป็นบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องผ่านการทดสอบตามข้อ 4
ข้อ 19 ให้ถือว่าเจ้าหน้าที่การตลาดด้านออปชันและหัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาดด้านออปชันที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยเจ้าหน้าที่การตลาดด้านออปชันและหัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาดด้านออปชัน พ.ศ. 2543 อยู่แล้วก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ เป็นเจ้าหน้าที่การตลาดประเภทตราสารที่มี leverage ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานตามประกาศนี้ โดยให้มีระยะเวลาการขึ้นทะเบียนเท่ากับระยะเวลาคงเหลือที่เจ้าหน้าที่การตลาดนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหากเจ้าหน้าที่การตลาดดังกล่าวประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดประเภทตราสารที่มี leverage กับสำนักงานอีกต่อไป เจ้าหน้าที่การตลาดนั้นจะต้องผ่านการทดสอบหลักสูตรตามข้อ 3(2) ของประกาศนี้ด้วย
ข้อ 20 ให้บุคคลที่ผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับออปชันตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยเจ้าหน้าที่การตลาดด้านออปชันและหัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาดด้านออปชัน พ.ศ. 2543 แล้วก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ แต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดด้านออปชันและหัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาดด้านออปชันกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รับยกเว้นไม่ต้องผ่านการทดสอบหลักสูตรการเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดประเภทตราสารที่มี leverage จากสถาบันฝึกอบรมตามที่กำหนดในประกาศนี้ หากบุคคลดังกล่าวได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานภายในหกเดือนนับแต่วันที่บุคคลนั้นผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับออปชัน โดยให้อายุการขึ้นทะเบียนสำหรับบุคคลดังกล่าวมีอายุถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2545 และหากบุคคลดังกล่าวประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดประเภทตราสารที่มี leverage กับสำนักงานอีกต่อไป บุคคลนั้นจะต้องผ่านการทดสอบหลักสูตรตามข้อ 3(2) ของประกาศนี้ด้วย
ข้อ 21 ให้เจ้าหน้าที่การตลาดที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดประเภทตราสารทุนตามประกาศนี้ สามารถทำหน้าที่ติดต่อ ชักชวน หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนแก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดการซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหน่วยลงทุน และใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ได้ด้วย ทั้งนี้ จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2545
ประกาศ ณ วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2543
(นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ