ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 08 ธันวาคม 2553 - 14 ธันวาคม 2553
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 8-9 ธ.ค. มีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา และมีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 ธ.ค. มีหมอกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนบางแห่ง ส่วนมากทางตะวันตกของภาค ระยะนี้อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ประกอบกับอากาศแห้ง เกษตรกรควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืช ด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการระเหยของน้ำจากผิวดิน รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ นอกจากนี้ควรใช้น้ำ อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 8-9 ธ.ค. มีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา และมีลมแรง ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 ธ.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ระยะนี้อากาศหนาวเย็น และลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรปรับปรุงโรงเรือนให้มิดชิดแข็งแรงเพื่อป้องกันลมหนาว ส่วนผู้ที่ก่อไฟให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ควรดับไฟให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันอัคคีภัย สำหรับเกษตรกรในพื้นที่นอกเขตชลประทานหากต้องการปลูกพืชหลังการเก็บเกี่ยวข้าว ควรเลือกปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น และใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำในระยะต่อไป
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 8-9 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 ธ.ค. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ระยะนี้อากาศเย็นและมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลร่างกายให้อบอุ่นเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนสัตว์เลี้ยงที่ยังเล็กควรทำแผงกำบังลมหนาวและเพิ่มดวงไฟในโรงเรือนเพื่อเพิ่มความอบอุ่น นอกจากนี้เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งคลุมแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นในดิน
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 8-9 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา โดยมีฝนบางแห่ง ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อยกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง สัปดาห์นี้อากาศเย็นและมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลร่างกายให้อบอุ่นเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ควรระวังผลผลิตทางการเกษตรที่ตากทิ้งไว้กลางแจ้งเสียหายจากฝนที่จะตกด้วย เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดน้อยลง เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเองควรวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้เหมาะสม เพื่อให้มีน้ำพอใช้ตลอดช่วงฤดูแล้ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 8-9 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดพัทลุงลงไป ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 8-9 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย เกษตรกรในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปควรระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากขึ้นได้ อนึ่งในช่วงวันที่ 8-9 ธ.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สำหรับผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่จะซัดเข้าสู่ฝั่งด้วย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
การคาดหมายได้ให้ไว้ในภาคใต้ฝั่งตะวันออก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74