พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 16 มีนาคม 2554 - 22 มีนาคม 2554
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. คลื่นกระแสลมตะวันตกกำลังเคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกระจายกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย
ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ต่อจากนั้นประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนลดลง
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่เกิดขึ้น ส่วนสภาวะฝนที่ตกในช่วงนี้ทำให้สภาพอากาศ คลายความร้อนลง และเป็นผลดีทางการเกษตร ดังนั้นขอให้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งนี้ไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา อุณหภูมิสูงสุด 25-32 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค. อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณด้านตะวันตกของภาค ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-33 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค. อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค. อากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ
10-30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค. อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณชายฝั่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในวันที่ 16-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
ในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค. อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74