พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 13 มีนาคม 2555 - 19 มีนาคม 2555
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 13-14 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ในช่วงวันที่ 15-17 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้อ่อนลง แต่จะมีจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 18-19 มี.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับภาคใต้มีลมตะวันออกพัดปกคลุมเกือบตลอดช่วง ทำให้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 13-15 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 13-15 มี.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
โดยมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16-19 มี.ค. และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาเซลเซียส
โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 13-14 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งและอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15-19 มี.ค. มีอุณหภูมิสูงขึ้น กับฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 13-14 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 15-19 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 13-14 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 15-19 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 13-14 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 15-19 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 13-14 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 15-19 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 13-14 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 15-19 มี.ค. โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74