พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 07 กรกฎาคม 2557 - 13 กรกฎาคม 2557

ข่าวทั่วไป Tuesday July 8, 2014 09:01 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 07 กรกฎาคม 2557 - 13 กรกฎาคม 2557

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค.อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศ มีความชื้นสูง ชาวนาไม่ควรหว่านกล้าแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดโรคพืชจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคไหม้ รวมทั้งระวังศัตรูพืชจำพวกหนอนที่มาทำลายต้นข้าว โดยเฉพาะหนอนกระทู้
  • ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตและที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกร ควรตัดแต่งกิ่ง ให้ทรงพุ่มโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา และควรทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา แล้วนำกิ่งที่ถูกตัดออกไปกำจัด ไม่ควรปล่อยไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนและตะวันออกของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค.อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศ มีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ และพืชผัก ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบจุด ในพืชไร่ และโรคราน้ำค้าง ราสนิม ในพืชผักสวนครัว เป็นต้น หากพบควรรีบกำจัดก่อนจะแพร่ไปสู่ต้นอื่นๆ
  • สำหรับทางตอนบน และทางด้านตะวันออกของภาค มีฝนตกหนัก ชาวสวนยางพารา ควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับต้นยาง และไม่ควรกรีดยางในช่วงนี้ รวมทั้งดูแลบริเวณสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังสภาพน้ำและคุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ ป้องกันสัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันตกของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ทางด้านตะวันตกของภาคมีฝนตกหนัก เกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม ควรจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
  • ส่วนทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาคมีปริมาณฝนน้อยเกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต หากขาดน้ำจะทำให้ผลผลิตด้อยคุณภาพ รวมทั้งกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกพืชให้โล่งเตียน เพื่อไม่ให้แย่งน้ำและอาหารของต้นพืช ตลอดจนไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก พื้นคอกไม่ชื้นแฉะ ป้องกันสัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 10-13 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส

  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เช่น เงาะ มังคุดและลองกอง เกษตรกรควรกำจัดผลที่เน่าเสีย และร่วงหล่น ตลอดจนเปลือกผลไม้ต่างๆให้ถูกวิธี โดยเผาหรือผังให้ลึก ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งอาจจะติดต่อจากเปลือกและผลที่เน่าไปสู่ต้นพืชได้
  • อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8-13 ก.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 10-13 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัด นครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายกับพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งตรวจซ่อมอุปกรณ์ระบายน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรเก็บกวาดผลที่ร่วงหล่นเน่าเสีย หรือผลที่ศัตรูพืชเข้าทำลายไปกำจัด ไม่ควรปล่อยไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งอาจติดต่อจากผลที่เน่าเสียไปสู่ต้นพืชได้
  • ส่วนชาวสวน ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก และกำจัดวัชพืชในสวนให้โล่งเตียน เพื่อลดความชื้นในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8-13 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 9-12 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 25-50 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 3-5 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายกับพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งตรวจซ่อมอุปกรณ์ระบายน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรเก็บกวาดผลที่ร่วงหล่นเน่าเสีย หรือผลที่ศัตรูพืชเข้าทำลายไปกำจัด ไม่ควรปล่อยไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งอาจติดต่อจากผลที่เน่าเสียไปสู่ต้นพืชได้
  • ส่วนชาวสวน ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก และกำจัดวัชพืชในสวนให้โล่งเตียน เพื่อลดความชื้นในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8-13 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ