พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 08 ธันวาคม 2557 - 14 ธันวาคม 2557

ข่าวทั่วไป Monday December 8, 2014 15:56 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 08 ธันวาคม 2557 - 14 ธันวาคม 2557

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 8-11 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ธ.ค. อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ตนเอง และสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังจากจุดไฟให้ความอบอุ่น เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
  • ส่วนผู้ที่เก็บเกี่ยวข้าวและพืชไร่แล้วไม่ควรเผาตอซัง เพราะควันไฟในช่วงฤดูหนาวจะลอยขึ้นข้างบนได้ยาก และจะแผ่ปกคลุมบริเวณใกล้เคียง ทำให้ทัศนวิสัยลดลง อาจเป็นอันตรายต่อการใช้รถใช้ถนน และเป็นการเพิ่มมลพิษในอากาศอีกด้วย
  • สำหรับผู้เลี้ยงปลาควรให้อาหารปลาน้อยลง เนื่องจากอากาศหนาวเย็น ปลาจะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสียได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงที่ 8-10 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้อากาศจะหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตอนบนของภาคมีอากาศหนาว เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
  • สำหรับผู้ที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตนเอง และสัตว์เลี้ยงหากใช้งานเสร็จแล้วควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน เพื่อป้องกันไฟลุกลามจนเกิดเป็นอัคคีภัย
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรทำแผงกำบังลมหนาว และเพิ่มดวงไฟให้ความอบอุ่นภายในโรงเรือนให้แก่สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็น และเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ ควรระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชเสียหาย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 8-11 ธ.ค. อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ธ.ค. อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้อากาศจะหนาวเย็นในตอนเช้าโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับสภาพอากาศแห้งทำให้น้ำระเหยไปจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่ พืชผักและไม้ดอก ที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตเสียหายได้

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 8-11 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • สัปดาห์นี้สภาพอากาศจะเย็นลง โดยฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ส่วนผู้เลี้ยงสัตว์ ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเตรียมแทงช่อดอก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชทรุดโทรม

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนกลางและตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดขุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

  • สัปดาห์นี้ภาคใต้ตอนบนจะมีปริมาณฝนลดลง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ควรให้น้ำเพิ่มเติมให้พอเพียงต่อความต้องการของพืชหากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนต่อเนื่อง ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาดโรคพืชที่เกืดจากเชื้อรา รวมทั้งป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินทำให้ต้นพืชได้รับความเสียหาย ชาวสวนควรหมั่นสำรวจ หากพบควรรีบกำจัดก่อนจะระบาดไปสู่ต้นอื่นๆ
  • ส่วนชาวสวนยางพาราและสวนกาแฟ ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ในช่วงวันที่ 12-14 ธ.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัด สุราษฎร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงเป็นกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้ภาคใต้ตอนบนจะมีปริมาณฝนลดลง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ควรให้น้ำเพิ่มเติมให้พอเพียงต่อความต้องการของพืชหากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนต่อเนื่อง ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาดโรคพืชที่เกืดจากเชื้อรา รวมทั้งป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินทำให้ต้นพืชได้รับความเสียหาย ชาวสวนควรหมั่นสำรวจ หากพบควรรีบกำจัดก่อนจะระบาดไปสู่ต้นอื่นๆ
  • ส่วนชาวสวนยางพาราและสวนกาแฟ ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ