พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 29 เมษายน 2558 - 05 พฤษภาคม 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday April 29, 2015 15:04 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 29 เมษายน 2558 - 05 พฤษภาคม 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 29-30 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 1-5 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้อุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนแตกต่างกันมาก เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ผลที่เน่าเสียร่วงหล่น และเปลือกผลไม้ อยู่ในบริเวณสวน แต่ควรเก็บรวบรวมแล้วนำไปกำจัด เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของเชื้อโรคและศัตรูพืช
  • เนื่องจากระยะนี้บางพื้นที่อาจมีฝนตก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ ใบและยอดอ่อนเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 29-30 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 1-5 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูร้อน อากาศเปลี่ยนแปลง โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในบางช่วงและบางวันอาจมีฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในฤดูฝนนี้ควรเตรียมดินเอาไว้ให้พร้อมโดยเตรียมดินให้มีการระบายน้ำที่ดี เมื่อดินมีความชื้นเพียงพอ และมีฝนตกสม่ำเสมอก็สามารถลงมือปลูกพืชได้

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 29-30 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 1-5 พ.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรที่เตรียมดินเอาไว้สำหรับปลูกพืชในช่วงฤดูฝนนี้ควรเตรียมดินให้มีการระบายน้ำที่ดีและจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากระยะต่อไปในช่วงเดือนหน้าจะเข้าสู่ฤดูฝน
  • ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรสำรวจตรวจสอบหลังคาโรงเรือนอย่าให้มีรอยรั่วซึมป้องกันสัตว์เปียกชื้น รวมทั้งยกพื้นคอกสัตว์ให้สูง ดูแลพื้นคอกไม่ให้ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับกั้นขอบบ่อ และเตรียมอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน

ภาคตะวันออก

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นกองรวมอยู่ในบริเวณสวน เพราะจะเป็นแหล่งอาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่มักระบาดในช่วงฤดูฝน
  • เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝน พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดเตรียมพื้นที่เพาะปลูกให้มีการระบายน้ำที่ดี และขุดลอกคูคลองตลอดจนทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขินน้ำไหลได้สะดวก

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 29-30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1-5 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • ระยะนี้แม้จะมีฝนตก แต่ปริมาณยังคงไม่มาก ไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินดอกและผลอ่อนทำให้ ดอกและผลเสียหาย การติดผลลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 29-30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1-5 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • สำหรับระยะต่อไปทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้น พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ โดยขุดลอกคูคลองและทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชสวนทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ