พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน 2558 - 29 พฤศจิกายน 2558

ข่าวทั่วไป Monday November 23, 2015 14:39 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 23 พฤศจิกายน 2558 - 29 พฤศจิกายน 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 23-24 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อากาศเย็น ถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงและอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วโดยเฉพาะสัตว์เล็ก เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

*สภาพที่มีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้าทำให้อากาศมีความชื้น เหมาะต่อการแพร่ระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคราแป้งในมะขามหวาน และราสนิมในกาแฟ เกษตรกร ควรหมั่นสำรวจหากพบโรคดังกล่าว ควรรีบกำจัดก่อนที่จะระบาดไปยังต้นอื่นๆ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 23-24 พ.ย. อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณ ยอดภู อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

*สัปดาห์นี้อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน และควรให้ความอบอุ่นแก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และไม่ควรปล่อยให้ สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งแจ้งตอนกลางคืน เพราะอาจทำให้ สัตว์อ่อนแอเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรจัดทำแผงกำบัง ลมหนาวให้กับสัตว์เลี้ยงด้วย

  • ช่วงที่อุณหภูมิลดลง จะทำให้อุณภูมิน้ำลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันและน็อกน้ำตายได้ เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อให้อุณหภูมิน้ำระดับตื้นและระดับลึก ไม่แตกต่างกันมากและเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ
  • ในช่วงวันที่ 25 – 29 พ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรง เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวผลผลิตที่แก่ดีแล้ว อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจได้รับความเสียหายได้ และควรลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ เพื่อป้องกันเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ผลผลิตเสียหาย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 23-24 พ.ย. มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึง เป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 25 – 29 พ.ย. สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้า โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน และควรดูแลให้ความอบอุ่นแก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มและทำการรักษา เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่น
  • ระยะนี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมนอกจากนี้ควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง เพื่อสงวนความชื้นในดิน

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 23-24 พ.ย. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 25-29 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  • ระยะนี้ แม้จะมีฝนตกในบางวันแต่ปริมาณมีน้อย ไม้ผลที่อยู่ในระยะพักตัวเพื่อเตรียมแทงช่อดอก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากส่วนที่อ่อน ทำให้ต้นทรุดโทรม ส่งผลให้การแตกตาดอกของพืชลดลง
  • สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย อายุการเก็บเกี่ยวสั้น และวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

*สัปดาห์นี้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรควรระวัง ผลกระทบจากฝนตกหนักและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพื้นที่การเกษตร โดยจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้อง กันน้ำขังบริเวณแปลงปลูก

  • ในระยะนี้ จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อเลี้ยง เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทัน จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 29 พ.ย. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

*สัปดาห์นี้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรควรระวัง ผลกระทบจากฝนตกหนักและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพื้นที่การเกษตร โดยจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้อง กันน้ำขังบริเวณแปลงปลูก

  • ในระยะนี้ จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อเลี้ยง เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทัน จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ