พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 13 มกราคม 2559 - 19 มกราคม 2559

ข่าวทั่วไป Wednesday January 13, 2016 14:13 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 13 มกราคม 2559 - 19 มกราคม 2559

ภาคเหนือ

  • การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 13 - 16 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 19 ม.ค. ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาโดยทั่วไปมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าการคายระเหยน้ำป็นส่วนใหญ่ โดยค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-10) ถึง (-20) มม. เว้นแต่ทาง ตอนล่างของภาค ค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-20) ถึง (-30) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้าจะมีฝนเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้สมดุลน้ำมีค่าน้อยลง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในดินลดลงเรื่อยๆ เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันพืชขาดน้ำ พร้อมทั้งควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะแทงช่อดอก โดยเฉพาะลำไย เกษตรกรควรงดให้น้ำในระยะนี้ ส่วนความหนาวเย็นที่ต่อเนื่องและยาวนานจะส่งผลให้ลำไยแตกตาดอกได้ดี

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 13 - 16 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 ม.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าการคายระเหยน้ำป็นส่วนใหญ่ โดยค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-10) ถึง (-30) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีปริมาณฝนน้อยซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตและให้ผลผลิต เพื่อป้องกันพืชชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคกลาง

  • การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 13-16 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 ม.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีปริมาณฝนที่ตกน้อยกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยมีค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-20) ถึง (-30) มม. เป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่ทางตอนล่างของภาค ค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-10) ถึง (-20) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีปริมาณฝนน้อย ซึ่งจะทำให้สมดุลน้ำลดลงเรื่อยๆ เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และใช้น้ำอย่างประหยัด โดยให้น้ำพืชครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้งและควรให้น้ำพืชในช่วงเย็น เพื่อลดการระเหยของน้ำ และควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคตะวันออก

  • การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 13-15 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-19 ม.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ทางตอนบนของภาค มีค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-10) ถึง (-30) มม. ส่วนทางตอนล่างของชลบุรีและระยอง ค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-10) ถึง (20) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า แม้จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม รวมทั้งระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ โดยเฉพาะเพลี้ยไฟในทุเรียนและมังคุด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ผลผลิตลดลงและเสียหาย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ค่าการคายระเหยน้ำของพืชมีมากกว่าปริมาณฝนที่ตก โดยทางตอนบนของภาค มีค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-20) ถึง (-30) มม.เป็นส่วนใหญ่ ส่วนทางตอนล่างของภาค ค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-40) มม. เป็นส่วนใหญ่ สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนน้อย เกษตรกรควรพิจจารณาให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม รวมทั้งกำจัดวัชพืชบริเวณแปลงปลูกเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นพืช และควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาสมดุลน้ำมีค่าอยู่ระหว่าง (-20) ถึง (-30) มม. เป็นส่วนใหญ่ ส่วนทางตอนล่างของภาค ค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-40) มม.ส่วนในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ เกษตรกรควรพิจารณาให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งกำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นพืช และควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

หมายเหตุสมดุลน้ำ คือ ปริมาณฝน – ปริมาณการคายระเหยน้ำของพืช, การคายระเหยน้ำ คือ น้ำระเหย + การคายน้ำของพืช แผนที่สมดุลน้ำสามารถดาวน์โหลดได้ตามลิงค์ http://www.arcims.tmd.go.th/DailyDATA/PET7day.php สำหรับแผนที่สมดุลน้ำคิดที่สถานีตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ส่วนในบริเวณอื่นเป็นการประมาณค่า (Interpolation)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ