พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 27 มกราคม 2559 - 02 กุมภาพันธ์ 2559

ข่าวทั่วไป Wednesday January 27, 2016 15:54 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 27 มกราคม 2559 - 02 กุมภาพันธ์ 2559

ภาคเหนือ

*การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

*การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศา ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส

*ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาโดยทั่วไปมีปริมาณฝนมากกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (10) ถึง (70) มม. และในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ สำหรับฝนที่ตกจะเป็นผลดีต่อพืชไร่และไม้ผล เช่น ลิ้นจี่และลำไย ที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อนทำให้ติดผลได้ดี แต่จะเป็นผลเสียถ้าอยู่ในระยะพักตัวเตรียมออกดอก ซึ่งจะทำลิ้นจี่และลำไยแตกใบอ่อนแทนตาดอก เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งตาใบทิ้ง และปรับสภาพสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้น้ำระเหยออกจากดินได้เร็ว รวมทั้งงดให้น้ำเพื่อให้พืชพักตัว พร้อมทั้ใส่ปุ๋ยบำรุงเพื่อให้พืชพร้อมที่ออกดอกรุ่นใหม่ต่อไป

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-6 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีอากาศเย็นและอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาทางตอนบนของภาค จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี ชัยภูมิ และขอนแก่น มีปริมาณฝนมากกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (10) ถึง (40) มม. และในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับฝนที่ตกจะเป็นผลดีต่อพืชไร่และไม้ผล ที่อยู่ในระยะการเจริญเติบโตของพืช ส่วนบริเวณอื่นๆมีค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-10) ถึง (-30) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีปริมาณฝนน้อยซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตและให้ผลผลิต เพื่อป้องกันพืชชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคกลาง

  • การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 27 ม.ค.-1 ก.พ.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 27 ม.ค.-1 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 4-8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาปริมาณฝนที่ตกน้อยกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (-10) ถึง (-30) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีปริมาณฝนน้อย ซึ่งจะทำให้สมดุลน้ำลดลงเรื่อยๆ เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และใช้น้ำอย่างประหยัด โดยให้น้ำพืชครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน ส่วนทางตอนล่างของภาคบริเวณจังหวัดนครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี มีปริมาณฝนที่ตกมากกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (10) ถึง (30) มม. ฝนที่ตกจะเป็นผลดีต่อ การเจริญเติบโตของพืช

ภาคตะวันออก

  • การคาดการณ์ฝน หลังจากวันที่ 1 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 27 ม.ค.-1 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 4-8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาปริมาณฝนที่ตกน้อยกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (-10) ถึง (-30) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีปริมาณฝนน้อย ซึ่งจะทำให้สมดุลน้ำลดลงเรื่อยๆ เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และใช้น้ำอย่างประหยัด รวมทั้งระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ โดยเฉพาะเพลี้ยไฟในทุเรียนและมังคุด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ผลผลิตลดลงและเสียหายส่วนจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา มีปริมาณฝนที่ตกมากกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (10) ถึง (20) มม.ฝนที่ตกจะเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 27-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 27-28 ม.ค.จะมีฝนหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และฝนหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีฝนตกทำให้บางพื้นที่ มีปริมาณฝนที่ตกมีค่ามากกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช สงขลา และพัทลุงโดยมีค่าอยู่ในช่วง 10 - 20 มม. ฝนที่ตกจะเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของพืช สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ เกษตรกรควรกักเก็บน้ำ และวางแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อยด้วย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1-2 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาสมดุลน้ำมีค่าอยู่ระหว่าง (-20) ถึง (-30) มม.เป็นส่วนใหญ่ ส่วนในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ปริมาณฝนที่ตกมีน้อย เกษตรกรควรพิจารณาให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งกำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นพืช และควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

หมายเหตุ สมดุลน้ำ คือ ปริมาณฝน – ปริมาณการคายระเหยน้ำของพืช, การคายระเหยน้ำ คือ น้ำระเหย + การคายน้ำของพืช แผนที่สมดุลน้ำสามารถดาวน์โหลดได้ตามลิงค์ http://www.arcims.tmd.go.th/DailyDATA/PET7day.php สำหรับแผนที่สมดุลน้ำคิดที่สถานีตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ส่วนในบริเวณอื่นเป็นการประมาณค่า (Interpolation)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ