การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 2 – 4 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและหมอกหนาในบางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับในช่วงวันที่ 5-8 มี.ค. จะมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะเวลาดังกล่าวข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 2 – 4 มี.ค. ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 3-8 มี.ค. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส
ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม. /ชม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 2-8 มี.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 2-4 มี.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม. /ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 2-4 มี.ค. อากาศเย็นกับหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 2-4 มี.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม. /ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74