พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม 2559 - 29 มีนาคม 2559
การคาดหมาย การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 24-27 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นโดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ในระยะแรก และในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศคลายความร้อนลง ในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อนโดยทั่วไป
สำหรับความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง
สรุปการคาดหมาย มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มี.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง
ข้อควรระวัง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศร้อนและหลีกเลี่ยงกิจกรรมในที่โล่งแจ้งนานๆ สำหรับเกษตรกรควรสวมใส่เครื่องนุ่งห่มให้เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆขณะที่ดำเนินกิจกรรมในระยะนี้ ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย
ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง
โดยในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตะวันออกของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 24-27 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากทางตอนล่างของภาคในระยะแรก โดยอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค. จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น และมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
โดยในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-40 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
โดยในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ มีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค. มีเมฆบางส่วน โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 23-26 มี.ค. มีเมฆบางส่วน โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74