พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 23 มีนาคม 2559 - 29 มีนาคม 2559

ข่าวทั่วไป Wednesday March 23, 2016 14:29 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 23 มีนาคม 2559 - 29 มีนาคม 2559

ภาคเหนือ

การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตะวันออกของภาค

การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส

ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาไม่มีรายงานฝนตกและมีค่าการคายระเหยน้ำของพืชมาก โดยค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-45) มม. โดยทางตอนล่างของภาคจะมีค่าสูงกว่าบริเวณอื่นๆ ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนตกบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ซึ่งจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และให้น้ำอย่างประหยัด โดยให้น้ำเฉพาะบริเวณทรงพุ่ม หรือวิธีน้ำหยด รวมทั้งกำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นพืช โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลร่วงหล่น และแคระแกร็นไม่ได้ขนาด

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 24-27 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 24-27 มี.ค. อุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค. จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส

ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาไม่มีรายงานฝนตกและมีค่าการคายระเหยน้ำของพืชมาก โดยเฉพาะทางตอนล่างและด้านตะวันตกของภาค ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-50) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า ฝนที่ตกจะมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตและให้ผลผลิต เพื่อป้องกันพืชชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคกลาง

การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 21-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค.อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาไม่มีรายงานฝนตก ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-50) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณน้อย ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมอย่างเหมาะสม และใช้น้ำที่กักเก็บไว้อย่างประหยัด รวมทั้งคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคตะวันออก

การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-40 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาปริมาณฝนที่ตกน้อยกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-40) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้า ฝนที่ตกจะมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล รวมทั้งระวังป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ผลผลิตลดลงและเสียหาย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค. มีเมฆบางส่วน ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่

การคาดการณ์อุณหภูมิ มีอากาศร้อนในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส

ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาไม่มีรายงานฝนตก ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-40) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้า แม้จะมีฝนแต่ปริมาณฝนน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ดอกร่วงหล่น การติดผลลดลง รวมทั้งควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 23-26 มี.ค. มีเมฆบางส่วน ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

การคาดการณ์อุณหภูมิ มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส

ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีรายงานฝนตกแต่ปริมาณน้อย สมดุลน้ำมีค่าอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-40) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้าแม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อย เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะพืชที่ อยู่ในระยะเจริญเติบโต หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งกำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นพืช และควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

หมายเหตุ สมดุลน้ำ คือ ปริมาณฝน – ปริมาณการคายระเหยน้ำของพืช, การคายระเหยน้ำ คือ น้ำระเหย + การคายน้ำของพืช แผนที่สมดุลน้ำสามารถดาวน์โหลดได้ตามลิงค์ http://www.arcims.tmd.go.th/DailyDATA/PET7day.php สำหรับแผนที่สมดุลน้ำคิดที่สถานีตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ส่วนในบริเวณอื่นเป็นการประมาณค่า (Interpolation)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ