พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม 2559 - 5 เมษายน 2559
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 30-31 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 1 – 5 เม.ย.ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ประกอบกับในช่วงวันที่ 31 มี.ค. – 2 เม.ย. จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนจากประเทศพม่าจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 30 มี.ค.- 2 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 30 มี.ค.– 1 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม
ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 5 เม.ย. อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 30 มี.ค. – 2 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 เม.ย. อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 30 มี.ค.– 1 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 2– 5 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 30 มี.ค.– 3 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ในช่วงวันที่ 4 – 5 เม.ย. มีอากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 30– 31 มี.ค. ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ในช่วงวันที่ 1 – 5 เม.ย. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 30 มี.ค.– 1 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 2– 5 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74