พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 30 มีนาคม 2559 - 05 เมษายน 2559

ข่าวทั่วไป Wednesday March 30, 2016 15:27 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 30 มีนาคม 2559 - 05 เมษายน 2559

ภาคเหนือ

  • การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 30 มี.ค. – 1 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 5 เม.ย. อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-20) ถึง (-40) มม. โดยทางตอนล่างและด้านตะวันตกของภาคจะมีค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-40) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า ปริมาณและการกระจายของฝนมีน้อย ความชื้นในดินลดลง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และคำนึงถึงปริมาณน้ำที่เก็บกักไว้ โดยให้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต ถ้าขาดน้ำจะทำให้ผลร่วงหล่น ผลผลิตลดลง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 30 มี.ค. – 2 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 เม.ย. อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส

-ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาค่าการคายระเหยน้ำของพืชมากกว่าปริมาณฝนที่ตก โดยเฉพาะทางตอนล่างและด้านตะวันตกของภาค ซึ่งค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-20) ถึง (-40) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า ปริมาณฝนมีน้อยทำให้สมดุลน้ำมีค่าเป็นลบ ความชื้นในดินมีน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม เพราะหากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ต้นพืชเหี่ยวเฉา ถ้าขาดน้ำจะทำให้ต้นพืชตายได้ นอกจากนี้ควรลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน โดยคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืช และรอบโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน

ภาคกลาง

  • การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 30 มี.ค.– 1 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 2– 5 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (10) ถึง (-40) มม. โดยทางตะวันตกค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (20) ถึง (-10) มม. และตอนล่างของภาคค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (-20) ถึง (-30) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณน้อย ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในดินมีค่าน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมอย่างเหมาะสม โดยวางแผนการใช้น้ำที่กักเก็บไว้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคตะวันออก

  • การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 30 มี.ค.– 3 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 4 – 5 เม.ย. มีอากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส

-ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-10) ถึง (-40) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้า ปริมาณฝนที่ตกจะมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และคำนึงถึงการใช้น้ำที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรให้น้ำอย่างเพียงพอ เพราะหากพืชได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตด้อยคุณภาพ ถ้าขาดน้ำจะ ทำให้ผลร่วงหล่น ผลผลิตลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • การคาดการณ์ฝน มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส

-ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (20) ถึง (-40) มม. โดยทางตอนบนของภาคจะมีความชื้นในดินมากกว่าทางตอนล่างของภาค และในช่วง 7 วันข้างหน้า ปริมาณฝนมีน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้พืชเหี่ยวเฉา หากขาดน้ำเป็นเวลานานจะทำให้ต้นพืชเหี่ยวเฉาถาวรและต้นตายได้ ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลอ่อน หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต ถ้าขาดน้ำจะทำให้ผลร่วงหล่น ผลผลิตลดลง นอกจากนี้ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • การคาดการณ์ฝน มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
  • การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
  • ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สมดุลน้ำมีค่าอยู่ระหว่าง (10) ถึง (-40) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้าแม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อย เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ