พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 09 พฤษภาคม 2559 - 15 พฤษภาคม 2559

ข่าวทั่วไป Monday May 9, 2016 13:51 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 09 พฤษภาคม 2559 - 15 พฤษภาคม 2559

ภาคเหนือ

อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในช่วงวันที่ 9-10 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-44 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม. /ชม

ระยะนี้จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก และควรเพิ่มน้ำดื่มให้กับสัตว์ด้วย เพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่าย

สำหรับฝนที่ตกในระยะนี้จะมีปริมาณน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล หากขาดน้ำจะทำให้ผลร่วงหล่น และแคระแกรน รวมทั้งคลุมดินและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน

ส่วนเกษตรกรที่ต้องการเตรียมพื้นที่ในการเพาะปลูกพืชรอบใหม่ ควรหลีกเลี่ยงการเผาตอซังข้าว และซังข้าวโพด เพราะไฟอาจจะลุกลามทำให้เกิดอัคคีภัยและไฟป่าได้ รวมทั้งควันไฟจากการเผาไหม้จะทำให้ทัศนวิสัยลดลง และเกิดเป็นมลพิษทางอากาศ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัด บางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 9-10 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

ระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูร้อนจะเข้าสู่ฤดูฝน อากาศเปลี่ยนแปลง โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในบางช่วงและบางวันอาจมีฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย พร้อมทั้งตรวจสอบสภาพโรงเรือนให้มีความมั่นคงแข็งแรง ดูแลหลังคาโรงเรือนอย่าให้ชำรุด และมีรอยรั่วซึม เนื่องจากระยะต่อไปจะเข้าสู่ฤดูฝน

สำหรับ เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชไร่และพืชผักรุ่นใหม่ ควรคลุกเมล็ดพันธุ์หรือชุบท่อนพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อรา และไม่ควรปลูกแน่นจนเกินไป เพื่อลดความชื้นสะสมภายในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงฤดูฝน

ภาคกลาง

อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในช่วงวันที่ 9-11 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

ระยะนี้จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน โดยดูแลโรงเรือนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ระยะนี้บางพื้นที่แม้จะมีฝนตก แต่ปริมาณยังไม่มากและการกระจายยังมีน้อย เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชควรรอให้มีฝนตกสม่ำเสมอแล้วค่อยลงมือปลูก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำของพืชในระยะต้นอ่อน

นอกจากนี้เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ ใบและยอดอ่อนเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ