พยากรณ์อากาศเกษตรเพื่อปาล์มน้ำมัน
ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 44/2561
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 29-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-4 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-9 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 30 ต.ค.-3 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 4 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิตาสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 29-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-4 พ.ย. อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 30 ต.ค.-3 พ.ย. อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ส่วนในวันที่ 4 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 29-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-4 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 29 ต.ค.-1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 30 ต.ค.-3 พ.ย. ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ในวันที่ 4 พ.ย. ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
ในช่วงวันที่ 30 ต.ค.-3 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศเย็นกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากว่า 2 เมตร ส่วนในวันที่ 4 พ.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าสำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ในระยะนี้เป็นช่วงต้นฤดูหนาวของประเทศไทย ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับเกษตรกรที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ศัตรูที่สำคัญมากอีกหนึ่งชนิด คือ “หนอนหน้าแมว” หรือที่เรียกกันว่า “หนอนดาน่า” เป็นหนอนกัดทำลายใบปาล์มน้ำมัน ถ้าอาการรุนแรงมากใบจะถูกกัดจนเหลือแต่ก้านใบ หนักมากจนถึงต้นใบโกร๋น ทำให้ผลผลิตลดลงต้นปาล์มชะงักการเจริญเติบโต และกว่าต้นจะฟื้นคืนดังเดิมใช้เวลานานเป็นปี เมื่อเกิดมีการระบาดแต่ละครั้งมักต้องใช้เวลาในการกำจัดนาน เป็นเพราะหนอนหน้าแมวนี้มีการเจริญเติบโตหลายระยะในเวลาเดียวกัน เช่น มีทั้งระยะตัวหนอน และระยะดักแด้ เราจึงไม่สามารถกำจัดให้หมดได้ในคราวเดียวกัน ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการกำจัดและจะต้องติดตามการระบาดอย่างต่อเนื่อง ลักษณะของต้นปาล์มที่โดนหนอนหน้าแมวเข้าทำลาย ถ้าอาการหนักหรือโดนเข้าทำลายอย่างรุนแรง จะเหลือแต่ก้านใบ หากเป็นเช่นนี้ ต้นปาล์มน้ำมันจะชะงักการเจริญเติบโต กว่าจะฟื้นตัวได้ ต้องใช้เวลานานเป็นปี จึงต้องใช้เวลาในการกำจัดอย่างต่อเนื่องสักระยะหนึ่งถึงจะกำจัดให้หายขาดได้การป้องกันโดยหมั่นสำรวจการระบาดของหนอนเป็นประจำ เมื่อพบกลุ่มหนอนให้ติดตามว่าหนอนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือลดลง เพื่อตัดสินใจพ่นสารฆ่าแมลงกำจัด ก่อนที่หนอนจะเพิ่มขยายจนเป็นวงกว้าง, ควรเลือกใช้สารฆ่าแมลงที่มีผลกระทบต่อศัตรูธรรมชาติอื่นๆน้อยที่สุด เพราะแมลงศัตรูธรรมชาติในสวนปาล์มน้ำมันเหล่านี้มีความสามารถในการควบคุมหนอนได้อย่างดีและไม่ควรใช้สารกำจัดวัชพืชมากเกินไป รวมทั้งควรมีพืชคลุมดินหรือปล่อยให้มีวัชพืชต้นเล็กที่ออกดอกสม่ำเสมอขึ้นอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน เพื่อเป็นแหล่งอาหารของแมลงศัตรูธรรมชาติ ส่วนการกำจัดหนอนหน้าแมวโดยวิธีจับแมลงโดยตรง เช่น ตัดใบย่อยที่มีหนอนทำลายหรือจับผีเสื้อ ซึ่งเกาะนิ่งในเวลากลางวันตามใต้ทางใบปาล์มน้ำมัน หรือเก็บดักแด้ตามซอกโคนทางใบรอบลำต้น, การใช้กับดักแสงไฟล่อผีเสื้อในช่วงดักแด้กำลังออกเป็นผีเสื้อสลับกับการใช้สารฆ่าแมลงหรือเชื้อแบคทีเรียในช่วงเป็นหนอนวัยที่ 2–3, หรือการใช้เชื้อแบคทีเรียสลับกับการใช้สารฆ่าแมลงและการใช้ตัวห้ำสลับกับการใช้เชื้อแบคทีเรียด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 02-3669336