พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 6 ตุลาคม พ.ศ. 2562
ออกประกาศวันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 117/62
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 1- 6 ต.ค. 62 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีอากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง
คำเตือน ในระยะนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีลักษณะอากาศแปรปรวนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 1-6 ต.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีหมอกบางในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 4 ต.ค. 62 อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- ระยะนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีลักษณะอากาศแปรปรวน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศ เป็นต้น สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน ควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางการเกษตรในช่วงที่มีฝนน้อย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 1-2 ต.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีอากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ต.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- ระยะนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีลักษณะอากาศแปรปรวน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับฝนที่ตกไม่สม่ำเสมอในระยะนี้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ รวมทั้งควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางการเกษตรในช่วงที่มีฝนน้อย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 1-6 ต.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีอากาศเย็นทางตอนบนของภาคในตอนเช้า โดยมีหมอกบางในตอนเช้าในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 4 ต.ค. 62 อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- ระยะนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีลักษณะอากาศแปรปรวน เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ นอกจากนี้ควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางการเกษตรในช่วงฝนแล้ง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 1-6 ต.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ เกือบตลอดช่วง ทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อเลี้ยง เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 1-3 ต.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ต.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %
ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 1-3 ต.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ต.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
- ระยะนี้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรจัดทำระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูก เมื่อมีฝนตกหนัก ประกอบกับช่วงนี้มีฝนตกติดต่อกันทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในกาแฟ และยางพารา เป็นต้น
ระหว่างวันที่ 23 - 29 กันยายน 2562 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยตอนบนในระยะต้นสัปดาห์ โดยมีลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ในระยะกลางและปลายสัปดาห์ ทำให้ภาคใต้มีฝนตลอดสัปดาห์ส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาค อนึ่งบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลงในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ กับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านประเทศเมียนมาเข้าปกคลุมภาคเหนือในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลงและมีอากาศเย็นหลายพื้นที่ ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกยังคงมีฝนเกือบตลอดสัปดาห์
ภาคเหนือ มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 15 ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ เว้นแต่ในวันที่ 26 และ 27 ก.ย. มีฝนร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นมีฝนเล็กน้อยบางแห่งในวันที่ 26 และ 27 ก.ย. โดยมีรายงานน้ำท่วมต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และร้อยเอ็ด ภาคกลาง มีฝนร้อยละ 80 ของพื้นที่กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งในวันแรกของสัปดาห์ จากนั้นมีฝน น้อยกว่าร้อยละ 15 ของพื้นที่ โดยมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบริเวณจังหวัดราชบุรี ในวันที่ 23 ก.ย. ภาคตะวันออก มีฝนร้อยละ 85 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งในวันแรกของสัปดาห์ จากนั้นฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 5-60 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งในวันที่ 24 และ 27 ก.ย. โดยมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบริเวณจังหวัดปราจีนบุรีในวันที่ 23-28 ก.ย. และบริเวณจังหวัดสระแก้วในวันที่ 25-26 ก.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนร้อยละ 60-85 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันสุดท้ายของสัปดาห์มีฝนร้อยละ 25 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งตลอดสัปดาห์ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนร้อยละ 35-60 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 28 ก.ย. มีฝนมากกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่
สัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดราชบุรี และระยอง ส่วนจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ น่าน นครราชสีมา สุรินทร์ อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สระแก้ว ชลบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี และนราธิวาส
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา