พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 6 – 12 มกราคม พ.ศ. 2563
ออกประกาศวันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2563
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 3/63
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 6 – 7 ม.ค. 63 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคใต้มีฝนน้อย และในช่วงวันที่ 8 – 12 ม.ค. 63 ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น
คำเตือน ในช่วงวันที่ 6 – 12 ม.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจร
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 6 – 12 ม.ค. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหารลงและควรให้อาหารสัตว์น้ำในช่วงที่อุณหภูมิสูงขึ้น จะทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้มากขึ้น สัตว์น้ำเจริญเติบโตได้ดีขึ้น นอกจากนี้เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพราะควันไฟจะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้ยากเนื่องจากในช่วงฤดูหนาวอากาศจะจมตัว ควันไฟจะแผ่ปกคลุมบริเวณข้างเคียงทำให้ทัศนวิสัยลดลง เป็นอุปสรรคต่อการใช้รถใช้ถนนและเป็นอันตราย ต่อสุขภาพ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 6 – 7 ม.ค. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูจะมีอากาศเย็นถึงอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 12 ม.ค. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูจะมีอากาศเย็นถึงอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ในช่วงนี้จะมีอากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับเกษตรกรที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน เพื่อป้องกันไฟลุกลามจนเป็นอัคคีภัย เนื่องจากระยะนี้และระยะต่อไปจะเป็นช่วงแล้ง เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 6 – 7 ม.ค. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 8 –12 ม.ค. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ระยะนี้อากาศเย็น เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้น และใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำของพืช
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 6 – 7 ม.ค. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 12 ม.ค. 63 มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็น เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนในบางช่วงจะมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะชาวสวนมะม่วงควรฉีดพ่นด้วยน้ำบริเวณทรงพุ่ม ก็จะลดการระบาดของโรคราดำลงได้แต่ไม่ควรฉีดแรงเกินไปเพราะจะทำให้ช่อดอกช้ำการติดผลลดลง เนื่องจากระยะนี้และระยะต่อไปจะเป็นช่วงแล้ง เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 6 – 7 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 12 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 6 – 7 ม.ค. 63 มีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 12 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- สำหรับทางตอนบนของภาคอากาศแห้ง เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน และรักษาอุณหภูมิดิน รวมทั้งวางแผนการใช้น้ำ ที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง ส่วนทางตอนล่างของภาคปริมาณและการกระจายของฝนเริ่มลดลง เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่ปริมาณและการกระจายของฝนลดลง
ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2562 – 5 มกราคม 2563 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง กับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในระยะต้นและปลายสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีอากาศเย็น โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นทั่วไป กับมีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค สำหรับภาคใต้มีฝนทางฝั่งตะวันออกของภาค จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ และลมตะวันออก ที่พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าวในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์
ภาคเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไป กับมีอากาศหนาวหลายพื้นที่ทางตอนบนของภาค สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ในวันแรกของสัปดาห์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไปตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในระยะต้นสัปดาห์ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศหนาว ภาคกลาง มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปส่วนมากทางตอนบนของภาค ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 5-50 ของพื้นที่ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ในวันที่ 31 ธ.ค. และ 2 ม.ค.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา