พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 17 - 23 เมษายน พ.ศ. 2563
ออกประกาศวันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 47/63
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 17-18 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคกลางตอนบน แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และภาคใต้จะมีฝนลดลง
คำเตือน ในช่วงวันที่ 17-18 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ เกษตรกรควรป้องกันอันตรายและระวังความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 17-18 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-43 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 45-55 %
- ระยะนี้จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชสวนและพืชผัก เป็นต้น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 17-18 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ในช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชสวนและพืชผัก เป็นต้น นอกจากนี้ควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมตามความเหมาะสม
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 17-18 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- ระยะนี้จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชสวนและพืชผัก เป็นต้น รวมทั้งไม่ควรตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 17-18 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- ในช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนเจาะผลในทุเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการระเหยของน้ำ
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 17-18 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 17-18 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรไม่ควรให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชสวนและพืชผัก เป็นต้น นอกจากนี้ควรระวังศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ และควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ระหว่างวันที่ 10 - 16 เมษายน 2563 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าวในระยะต้นและปลายช่วง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนอบอ้าวเกือบตลอดช่วงและมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือและภาคกลางส่วนมากในระยะต้นและปลายช่วง อนึ่งบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในระยะกลางช่วง ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเกือบตลอดช่วงและมีพายุฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ในระยะต้นและกลางช่วง สำหรับภาคใต้มีอากาศร้อนเกือบทั่วไป และมีฝนจากอิทธิพลของลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ซึ่งมีกำลังแรงขึ้นในระยะกลางและปลายช่วง
ภาคเหนือ มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปตลอดช่วง กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ส่วนมากในระยะต้นและปลายช่วง โดยมีฝนร้อยละ 5-30 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดพิษณุโลกในวันที่ 12-13 เม.ย. บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา และน่านในวันที่ 13 เม.ย. และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลูกเห็บบริเวณจังหวัดลำปางในวันที่ 15 เม.ย. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศร้อนทั่วไปเกือบตลอดช่วง โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่ง เว้นแต่ในวันที่ 12 เม.ย. มีฝนร้อยละ 70 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่ง และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 10-12 เม.ย. บริเวณจังหวัดหนองบัวลำภูและเลยในวันที่ 12 เม.ย. บริเวณจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 11-12 เม.ย. และบริเวณจังหวัดหนองคายในวันที่ 13 เม.ย. ภาคกลาง มีอากาศร้อนทั่วไปตลอดช่วง กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในระยะครึ่งแรกและวันสุดท้ายของช่วง โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 20 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 13 เม.ย. มีฝนร้อยละ 65 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบาง
แห่งในวันที่ 10 และ 13 เม.ย. และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดสิงห์บุรี กาญจนบุรี และอุทัยธานีในวันที่ 10 เม.ย. บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ในวันที่ 12 เม.ย. และบริเวณจังหวัดราชบุรีในวันที่ 13 เม.ย. ภาคตะวันออก มีอากาศร้อนส่วนมากทางตอนบนของภาคในระยะครึ่งแรกและปลายช่วง โดยมีฝนร้อยละ 5-55 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทราในวันที่ 11 เม.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปเกือบตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 5-50 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในวันที่ 13,15 และ 16 เม.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปเกือบตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 10-50 ของพื้นที่ในระยะต้นและกลางช่วง จากนั้นมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์มากกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปเกือบตลอดช่วง โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 20 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 13 เม.ย. มีฝนมากกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง
ช่วงที่ผ่านมามีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดพิษณุโลกและชุมพร ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ เชียงราย ลำปาง สกลนคร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ลพบุรี สุพรรณบุรี กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ราชบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ตราด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา นราธิวาส พังงา กระบี่ และสตูล
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา