พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 15 - 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
ออกประกาศวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางพื้นที่ เนื่องจากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
คำเตือน ในช่วงวันที่ 17-21 พ.ค. บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตราย และป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือ ด้วยความระมัดระวัง สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ในช่วงฤดูฝน ควรเตรียมพื้นที่เพาะปลูกให้พร้อม เมื่อฝนตกสม่ำเสมอแล้วจึงเริ่มเพาะปลูก
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-17 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ระยะนี้จะมีอากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งตลอดช่วง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคแอนแทรคโนสอะโวคาโด และโรคราน้ำค้างข้าวโพด เป็นต้น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ในช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งตลอดช่วง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชสวนและพืชผัก นอกจากนี้ควรผูกยึดค้ำยันกิ่งไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งตลอดช่วง เกษตรกรควรซ่อมแซมหลังคาโรงเรือนอย่าให้มีรอยรั่วซึม นอกจากนี้ ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชสวนและพืชผัก
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- ในช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชสวนและพืชผัก นอกจากนี้ควรผูกยึดค้ำยันกิ่งไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
- ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วงกับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรไม่ควรให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนหัวดำมะพร้าว เป็นต้น
ระหว่างวันที่ 8 - 14 พฤษภาคม 2563 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนตลอดช่วง โดยในระยะกลางช่วงบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปตลอดช่วง และมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง และมีฝนกับฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ สำหรับภาคใต้ได้รับอิทธิพลจากลมตะวันออกพัดที่ปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นมีลมตะวันออกเฉียงใต้ได้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว กับมีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณหัวเกาะสุมาตราในระยะต้นช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนาแน่นตลอดช่วง
ภาคเหนือ มีอากาศร้อนทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 15-35 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่ง เว้นแต่วันที่ 11 พ.ค. มีฝนร้อยละ 65 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่ง และมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดตากในวันที่ 8 พ.ค. จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 8,11 และ 12 พ.ค. จังหวัดเชียงรายในวันที่ 9 พ.ค. จังหวัดน่านในวันที่ 9 และ 11 พ.ค. จังหวัดลำพูน พะเยาและน่านในวันที่ 10-11 พ.ค. และจังหวัดกำแพงเพชรและพิษณุโลกในวันที่ 11 พ.ค. กับมีลูกเห็บตกบริเวณจังหวัดตากในวันที่ 8 พ.ค. กับมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบริเวณจังหวัดลำปางในวันที่ 9 พ.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศร้อนทั่วไปเกือบตลอดช่วง กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ส่วนมากในระยะครึ่งแรกของช่วง โดยมีฝนร้อยละ 5-30 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่ง เว้นแต่ในวันที่ 11 พ.ค. มีฝนร้อยละ 75 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่ง และมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณเลยในวันที่ 9 พ.ค. จังหวัด บึงกาฬและสุรินทร์ในวันที่ 10 พ.ค. จังหวัดศรีสะเกษในวันที่ 10-11 พ.ค. จังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 10,11 และ 14 พ.ค. จังหวัดอำนาจเจริญและยโสธรในวันที่ 11 พ.ค. และจังหวัดกาฬสินธุ์ในวันที่ 14 พ.ค. ภาคกลาง มีอากาศร้อนทั่วไปเกือบตลอดช่วง กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ทางตอนบนของภาค โดยมีฝนร้อยละ 15-35 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง เว้นแต่ในวันที่ 11 พ.ค. มีฝนร้อยละ 80 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่ง และมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดกาญจนบุรีในวันที่ 11 พ.ค. และจังหวัดสิงห์บุรีในวันที่ 14 พ.ค. ภาคตะวันออก มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปทางตอนบนของภาคเกือบตลอดช่วง กับมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทราในวันที่ 9 พ.ค. โดยมีฝนร้อยละ 25-40 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง กับมีฝนหนักบางแห่ง เว้นแต่ในวันที่ 11 พ.ค. มีฝนร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง และมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทราและชลบุรีในวันที่ 11 พ.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศร้อนเกือบทั่วไป โดยมีฝนร้อยละ 20-60 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศร้อนหลายพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 60-90 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งส่วนมากในระยะกลางช่วง
ช่วงที่ผ่านมามีรายงานบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน สุโขทัย เลย หนองคาย นครพนม ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ราชบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา