พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 10 - 16 เมษายน พ.ศ. 2567

ข่าวทั่วไป Wednesday April 10, 2024 13:20 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

คาดหมายอากาศทั่วไป

ระหว่างวันที่ 10 - 16 เมษายน พ.ศ. 2567

ในช่วงวันที่ 10 ? 11 เม.ย. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน โดยมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านประเทศเมียนมาและภาคเหนือตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 16 เม.ย. 67 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะลอันดามันเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 10 ? 11 เม.ย. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและ

ทะเลอันดามันควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 16 เม.ย. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

ออกประกาศ 10 เมษายน 2567 12:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค

ระหว่างวันที่ 10 ? 16 เมษายน พ.ศ. 2567

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 10 ? 11 เม.ย. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 ? 40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 5 ? 15 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 16 เม.ย. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 ? 43 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 ? 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 11 - 16 เม.ย. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 ? 41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 ? 15 กม./ชม.?

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 11 ? 16 เม.ย. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 25 ? 32 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39 ? 41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 11 ? 16 เม.ย. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 26 ? 30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 ? 41 องศาเซลเซียส

ลมใต้ ความเร็ว 10 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

อากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง

อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 40 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 10 - 11 เม.ย. 67

ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 16 เม.ย. 67

ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง

อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 ? 39 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 10 - 11 เม.ย. 67 ลมตะวันออก ความเร็ว 15 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 16 เม.ย. 67 ลมตะวันออก ความเร็ว 10 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 11 ? 16 เม.ย. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 26 ? 31 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 ? 40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 ? 25 กม./ชม.

ออกประกาศ 10 เมษายน 2567 12:00 น.

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ