พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 - 23 กุมภาพันธ์ 2552
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 17-18 ก.พ. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ซึมลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของประเทศไทย ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ส่วนบริเวณประเทศไทยยังคงมีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนอบอ้าวใน ตอนกลางวัน
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 19-23 ก.พ. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 17-18 ก.พ. ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 19-22 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนให้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อากาศหนาวทางตอนบนของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 17-18 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 19-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
และมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา
โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
และมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 17-18 ก.พ. อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 19-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
และมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า และมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 35-37 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
และมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74