พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 14 ธันวาคม 2552 - 20 ธันวาคม 2552

ข่าวทั่วไป Monday December 14, 2009 15:07 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 14 ธันวาคม 2552 - 20 ธันวาคม 2552

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค. ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึง หนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 6-13 องศาเซลเซียส สภาพอากาศที่หนาวถึงหนาวจัด เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและเพิ่มความอบอุ่นให้แก่สัตว์เลี้ยง สำหรับแปลงพืช เกษตรกรควรให้ปุ๋ยอินทรีย์ เพราะสามารถดูดความร้อนจากแสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน และคายความร้อนในตอนกลางคืน จึงช่วยให้อากาศเหนือพื้นดินมีอุณหภูมิไม่ต่ำมากนัก ลดโอกาสการเกิดแม่คะนิ้งที่จะเป็นอันตรายต่อพืช

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 14-15 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึง หนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง และทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยง ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรควบคุมอุณหภูมิน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปีเสร็จแล้ว หากต้องการปลูกพืชควรรีบปลูกทันที ขณะที่ความชื้นในดินยังมีเพียงพอ และควรเลือกพืชใช้น้ำน้อยมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น เช่น ถั่วต่างๆ และพืชผัก อย่างไรก็ดีก็ควรแสวงหาแหล่งน้ำสำรอง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค. อากาศเย็น กับมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตซึ่งตากทิ้งไว้กลางแจ้ง ในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค. และควรป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และผัก ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ผลผลิตเสียหาย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค. อากาศเย็น กับมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง แม้ระยะนี้จะมีฝนตก แต่ปริมาณน้อย เกษตรกรจึงควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก และคลุมดินบริเวณโคนต้นด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำ รวมทั้งกำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากพืชที่ปลูก

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ทางตอนบนของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. มีลมแรงกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. ทางตอนล่างของภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกชุก เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรครากเน่าและโคนเน่า อนึ่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ