พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 18 ธันวาคม 2552 - 24 ธันวาคม 2552

ข่าวทั่วไป Friday December 18, 2009 15:59 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 18 ธันวาคม 2552 - 24 ธันวาคม 2552

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 18-22 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบน ของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-24 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรควรระวังการเกิดอัคคีภัยจากการก่อไฟผิง และดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจ ส่วนสัตว์เลี้ยงควรได้รับความอบอุ่นเพียงพอ โดยควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนไม่ให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หากสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 18-22 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-24 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า ในช่วงที่น้ำในบ่ออุณหภูมิลดลง สัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อย อ่อนแอ มีความต้านทานต่อโรคต่ำ ติดเชื้อและเป็นโรคได้ง่าย เกษตรกรจึงควรลดปริมาณอาหาร เพื่อลดอาหารเหลือตกค้าง ซึ่งจะทำให้น้ำเน่าเสีย รวมทั้งดูแลไม่ให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สำหรับการเพาะปลูกควรใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 18-22 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-24 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า เนื่องจากช่วงนี้อากาศเย็นและมีฝนน้อย ประกอบกับเป็นระยะออกดอกของมะม่วง ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำความเสียหายโดยดูดกินน้ำเลี้ยงจากยอดอ่อนและช่อดอก ทำให้ดอกร่วงหล่น การติดผลลดลง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 18-22 ธ.ค. และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-24 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลภายในโรงเรือนอย่าให้มีลมโกรก เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วจะเป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย ในช่วงนี้อากาศแห้ง ชาวสวนที่มีทุเรียนอยู่ในระยะออกดอกควรได้รับน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันดอกแคระแกร็นและร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 18-22 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค และตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมามีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-24 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 18-21 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 22-24 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนัก ชาวสวนควรดูแลแปลงปลูกพืชให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคเปลือกเน่าในยางพารา เป็นต้น อนึ่ง ในช่วงวันที่ 18-22 ธ.ค. คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ผู้ที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ