ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร “บ. อาร์ ซี แอล” เป็น “BBB-” จาก “BBB” และลดอันดับหุ้นกู้ไม่มีประกันเป็น “BB+” จาก “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Negative”

ข่าวทั่วไป Tuesday May 8, 2012 16:40 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศปรับลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “BBB-” จาก “BBB” พร้อมทั้งปรับลดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทเป็นระดับ “BB+” จาก “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้จากปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยหลายประการ อาทิ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลก การแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และอุปทานส่วนเกินของเรือที่มีจำนวนมาก นอกจากนี้ ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทก็ลดลงทั้งในธุรกิจกองเรือฟีดเดอร์ (Shipper-owned Container - SOC) และธุรกิจเรือบริการขนส่งตู้สินค้าประจำเส้นทาง (Carrier-owned Container - COC) โดยในปี 2554 บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 2,051 ล้านบาทเมื่อเทียบกับผลขาดทุนจำนวน 463 ล้านบาทในปี 2553 อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงคณะผู้บริหารของบริษัทที่มีความสามารถและประสบการณ์ รวมทั้งสถานะผู้นำในตลาดผู้ประกอบการขนส่งทางเรือระดับภูมิภาคอันเนื่องมาจากความได้เปรียบในเรื่องขนาดของกองเรือ ความถี่ในการให้บริการ และอายุเฉลี่ยของกองเรือที่ยังต่ำ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงสถานการณ์ทางการตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยหลาย ๆ ประการซึ่งคาดว่าจะยังคงกดดันความสามารถของบริษัทในการปรับปรุงผลประกอบการและสถานะทางการเงินในระยะอันใกล้ ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงอีกหากบริษัทยังคงประสบภาวะขาดทุนอย่างมากและประสบปัญหาด้านสภาพคล่องในช่วงไตรมาสข้างหน้า อย่างไรก็ตาม หากบริษัทสามารถปรับเพิ่มอัตราค่าระวางการบรรทุกสินค้าจนสามารถปรับปรุงอัตราการทำกำไรและสร้างกระแสเงินสดที่เข้มแข็งเพียงพอที่จะใช้ชำระคืนหนี้ได้ก็จะส่งผลบวกต่ออันดับเครดิต และ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท

ทริสเรทติ้งรายงานว่า ในปี 2554 ปริมาณการขนส่งสินค้าของบริษัท อาร์ ซี แอลลดลง 7% นอกจากนี้ อัตราค่าระวางโดยเฉลี่ยของบริษัทก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 191 ดอลลาร์สหรัฐต่อตู้สินค้า (Twenty-foot Equivalent Unit - TEU) ในระหว่างปี 2553-2554 ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป รวมถึงอุปทานส่วนเกินของเรือที่มีจำนวนมากจนส่งผลให้การแข่งขันทวีความรุนแรงเป็นสำคัญ ในปี 2554 บริษัทมีค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงทั้งหมด 196.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐเทียบกับ 148.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2553 ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงต่อรายได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 44% ในปี 2554 จากระดับประมาณ 31% ในปี 2553 ส่วนเงินเก็บเพิ่มจากค่าน้ำมันที่สูงขึ้นซึ่งเรียกเก็บจากลูกค้านั้นก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนมากนักตั้งแต่ปี 2553 ดังนั้นบริษัทจึงไม่ได้รับเงินชดเชยต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นมากนัก

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า การลดลงของปริมาณการขนส่งสินค้าและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้รายได้และกระแสเงินสดของบริษัท อาร์ ซี แอลต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ (ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงาน) อ่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 8.4% ในปี 2553 เป็น -2.3% ในปี 2554 นอกจากนี้ อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย (ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงาน) ก็ลดลงจาก 2.5 เท่าในปี 2553 เป็น -0.5 เท่าในปี 2554 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวม (ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงาน) ปรับตัวลดลงจาก 8.0% ในปี 2553 เป็น -6.1% ในปี 2554 อัตราส่วนหนี้สินต่อโครงสร้างเงินทุน (ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงาน) ปรับตัวดีขึ้นจาก 46.7% ในปี 2553 เป็น 45.6% ในปี 2554 ณ เดือนธันวาคม 2554 บริษัทมีเงินสดจำนวน 4,589 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องของบริษัทตึงตัวขึ้นเนื่องจากบริษัทจะต้องชำระเงินกู้ยืมจำนวน 3,600 ล้านบาทในปี 2555 นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการจะซื้อเรือใหม่จำนวน 2 ลำซึ่งจะส่งมอบภายในปี 2555-2556 โดยคาดว่าจะใช้เงินทุนจากการกู้ยืม วงเงินสินเชื่อส่วนใหญ่ของบริษัทมีการกำหนดเงื่อนไขหลายประการที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินและอัตราส่วนที่เกี่ยวข้องกับกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย อย่างไรก็ตาม บริษัทประสบความสำเร็จในการยกเลิกเงื่อนไขในการดำรงอัตราส่วนที่เกี่ยวข้องกับกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจากเงื่อนไขทางการเงิน แต่บริษัทก็จะต้องดำรงเงินสดขั้นต่ำจำนวน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำรองเอาไว้ตลอดอายุของสัญญาเงินกู้

จากรายงานของ Alphaliner ปริมาณการบรรทุกสินค้าในช่วงปี 2555-2556 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 3.2 ล้านตู้ หรือคิดเป็น 26% ของปริมาณบรรทุกในปัจจุบันเนื่องจากผู้ประกอบการสั่งต่อเรือเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 ก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 730 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตันจากระดับ 638 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตันในปี 2554 ทั้งนี้ คาดว่าราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 ผู้ประกอบการรายใหญ่ประสบความสำเร็จในการลดความจุระวางและเพิ่มอัตราค่าระวางในการบรรทุกสินค้า อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการติดตามความสามารถในการเพิ่มอัตราค่าระวางของบริษัท อาร์ ซี แอลต่อไปแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเนื่องจากบริษัทมีอำนาจในการต่อรองที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ให้บริการครอบคลุมทั่วโลก ทั้งนี้ ความสามารถในการปรับเพิ่มอัตราค่าระวางการบรรทุกสินค้าจะเป็นสิ่งสำคัญต่อการอยู่รอดของบริษัทในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) (RCL)
อันดับเครดิตองค์กร:	                              ลดลงเป็น BBB- จาก BBB
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
RCL12OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555	 ลดลงเป็น BB+ จาก BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต:	                              Negative (ลบ)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2555  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/ratinginformation/rating_criteria.html








เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ