เอแบคโพลล์: ที่สุดแห่งคนการเมืองปีที่ผ่านมา และความหวัง ความกลัวของประชาชนในปีใหม่นี้

ข่าวผลสำรวจ Wednesday January 4, 2012 07:27 —เอแบคโพลล์

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ที่สุดแห่งคนการเมืองปีที่ผ่านมา และความหวัง ความกลัวของประชาชนในปีใหม่นี้ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่ 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี จันทบุรี ชลบุรี ลพบุรี พิจิตร เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ มุกดาหาร หนองคาย ชัยภูมิ สุรินทร์ อุดรธานี ขอนแก่น พัทลุง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช จำนวนทั้งสิ้น 2,149 ตัวอย่าง โดยดำเนินการวิจัยข้อมูลในช่วง 20 - 31ธันวาคม 2554 พบว่า

เมื่อถามถึงนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบที่สุดแห่งปี 2554 ที่ผ่านมา พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 77.7 ระบุเป็น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะที่รองลงมาอันดับที่สองได้แก่ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ร้อยละ 13.9 และรองๆ ลงไปได้แก่ นายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ตามลำดับ

เมื่อถามถึงนักการเมืองฝ่ายค้านที่ชื่นชอบที่สุดแห่งปี 2554 ที่ผ่านมา พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 74.9 ระบุเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในขณะที่รองลงมาอันดับสองได้แก่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้ร้อยละ 16.7 และรองๆ ลงไปได้แก่ นายชวน หลีกภัย และ รังสิมา รอดรัศมี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ พฤติกรรมของข้าราชการและนักการเมืองที่ประชาชน “ไม่ชอบหรือยี้” ในรอบปี 2554 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.0 ระบุเป็นการทุจริตคอรัปชั่น การฮั้วประมูล และการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ในขณะที่รองลงไปคือ ร้อยละ 55.6 ระบุบริการไม่ดี ก้าวร้าว พูดจาไม่สุภาพ และร้อยละ 54.6ระบุแบ่งพรรค แบ่งพวก เห็นแก่ตัว เบียดเบียนประชาชน ร้อยละ 52.3 ทำงานช้า ร้อยละ 52.1 ใช้อิทธิพล วางอำนาจ และ รองๆลงไปคือ เลือกปฏิบัติ ชู้สาว ไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ความไม่สามัคคี และไม่มีความรับผิดชอบ ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของข้าราชการและนักการเมืองที่ประชาชน “ชื่นชอบ และอยากเห็น” ในปี 2555 ปีใหม่นี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.4 ระบุซื่อสัตย์ สุจริต ในขณะที่รองลงไปคือ ร้อยละ 65.9 ระบุ ขยัน ตั้งใจทำงาน พูดจริงทำจริง ร้อยละ 64.0 เอาใจใส่ประชาชนมากกว่านี้ ร้อยละ61.1 ใช้ความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย และรองๆ ลงไปได้แก่ รับผิดชอบต่อสังคมให้มากขึ้น เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน มีมารยาท ความสามัคคี การปราบปรามยาเสพติด ให้ความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เห็นแก่ตัว ให้เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญที่ค้นพบ คือ เมื่อถามถึงความหวังและความกลัวในปีใหม่ 2555 นี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 53.8 เริ่มมีความหวังที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าในปีใหม่นี้ ในขณะที่ร้อยละ 46.2 มีความกลัวต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า

เมื่อสอบถามเฉพาะในกลุ่มคนที่มีความหวังและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ พบ 5 อันดับแรกของความหวังของคนไทย ได้แก่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.9 หวังว่าบ้านเมืองจะสงบสุข คนไทยรักกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลมีไมตรีจิตต่อกัน รองลงมาคือ ร้อยละ 73.5 หวังว่ารัฐบาลจะทำตามนโยบายหาเสียง ค่าจ้างแรงงาน 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรีเริ่ม 15,000 บาท บัตรเครดิตชาวนา บัตรเครดิตพลังงาน เป็นต้น ร้อยละ 62.8 หวังว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้น ร้อยละ 60.1 หวังว่าจะมีความเป็นธรรมทางสังคม ไม่เลือกปฏิบัติ และร้อยละ 59.3 หวังจะได้สังคมที่มีคุณภาพดีขึ้น ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มคนที่มีความกลัว พบ 5 อันดับแรกของประเภทความกลัว ได้แก่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.7 กลัวความวุ่นวาย แตกแยกรุนแรงของคนในชาติ รองลงมาคือ ร้อยละ 71.0 กลัวปัญหาราคาสินค้าสูงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อ ร้อยละ 68.3 กลัวภัยธรรมชาติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ร้อยละ 65.9 กลัวอาชญากรรมและยาเสพติด และร้อยละ 63.3 กลัวปัญหาทุจริต คอรัปชั่น ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อประเด็นสำคัญทางการเมืองด้านต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.8 เชื่อมั่นว่าบรรดาแกนนำพรรคไทยรักไทยบ้านเลขที่ 111 จะกลับมาทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพมากกว่ารัฐมนตรีชุดปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.4 ไม่เชื่อมั่นว่า บรรดานักการเมืองและข้าราชการยุคนี้จะซื่อสัตย์สุจริต ไม่คดโกง และร้อยละ 56.1 ไม่เชื่อมั่นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการแก้ปัญหาความขัดแย้งแตกแยกของคนในชาติ

ยิ่งไปกว่านั้น เกือบครึ่งหรือร้อยละ 48.7 ยังคิดว่า ความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองในปีใหม่นี้จะแตกแยกรุนแรงมากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 33.9 คิดว่าจะเหมือนเดิม และร้อยละ 17.4 คิดว่าจะลดลง ตามลำดับ

ผอ.เอแบคโพลล์ กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ในปีใหม่นี้ “ระบบและกลไกทางการเมือง” ของประเทศทั้งในด้านสถาบันทางการเมือง กระบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองและอะไรที่รัฐบาลได้กระทำ ทำไมถึงได้กระทำในช่วงที่ผ่านมา ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่อ่อนไหวและอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลจนเกิดอาการแกว่งตัว อันอาจส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อสภาวะเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้ ทางออกที่น่าพิจารณาคือ การแสดงภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีในการแสดงถึงความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวในการตัดสินใจต้องชัดเจนมากขึ้น ต้องแสดงให้สาธารณชนมั่นใจว่า “ปลอดอคติแห่งนครา” คือไม่ตกอยู่ภายใต้การชี้นำหรืออิทธิพลของกลุ่มคนเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร จังหวัดหัวเมืองใหญ่และต่างประเทศ หมายความว่า ทุกการตัดสินใจจะทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทุกคนทั้งประเทศอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ประเด็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในการคลี่คลายและลดความขัดแย้งต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและสังคมระดับกว้าง โดยไม่คล้อยตามการยกยอปอปั้นของคนรอบข้างใกล้ชิด และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ต้องสร้างความมั่นใจว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐยึดหลัก ความรู้ ความสามารถ และคุณธรรม เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนที่มีคุณภาพของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง

ลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 46.8 เป็นชาย ร้อยละ 53.2 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 5.6 อายุน้อยกว่า 20 ปี ร้อยละ 21.4 อายุระหว่าง 20—29 ปี ร้อยละ 21.7 อายุระหว่าง 30—39 ปี ร้อยละ 23.2 อายุระหว่าง 40—49 ปี และ ร้อยละ 28.1 อายุ 50 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 70.9 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 29.1 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 33.6 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 29.5 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 11.2 ระบุเป็นพนักงานเอกชน ร้อยละ 10.7 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 6.8 ระบุเป็นนักเรียนนักศึกษา ร้อยละ 5.1 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ ร้อยละ 3.1 ว่างงาน/ไม่ได้ประกอบอาชีพ

ตารางที่ 1 แสดงการจัด 5 อันดับแรก นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบที่สุด แห่งปี 2554
อันดับที่          นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบที่สุด แห่งปี 2554        ค่าร้อยละ
1          นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี                    77.7
2          ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง                              13.9
3          ยงยุทธ์  วิชัยดิษฐ์                                      2.6
4          กิตติรัตน์  ณ ระนอง                                    2.2
5          พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา                                1.3

ตารางที่ 2 แสดงการจัด 5 อันดับแรก นักการเมืองฝ่ายค้านที่ชื่นชอบที่สุด แห่งปี 2554
อันดับที่          นักการเมืองฝ่ายค้านที่ชื่นชอบที่สุด แห่งปี 2554         ค่าร้อยละ
1          อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ                                  74.9
2          ชูวิทย์  กมลวิศิษฐ์                                    16.7
3          ชวน  หลีกภัย                                        3.2
4          รังสิมา  รอดรัศมี                                     2.5
5          สุเทพ เทือกสุบรรณ                                    1.1

ตารางที่ 3 แสดงการจัดอันดับ พฤติกรรมของข้าราชการและนักการเมืองที่ไม่ชอบ ในรอบปี 2554 ที่ผ่านมา(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
อันดับที่          พฤติกรรมของข้าราชการที่ไม่ชอบ ในรอบปี 2554 ที่ผ่านมา          ค่าร้อยละ
1          การทุจริตคอรัปชั่น / การฮั้วประมูล / เก็บเกี่ยวผลประโยชน์             79.0
2          บริการไม่ดี / ก้าวร้าว พูดจาไม่สุภาพ                              55.6
3          แบ่งพรรค แบ่งพวก / เห็นแก่ตัว / เบียดเบียนประชาชน                54.6
4          ทำงานช้า                                                   52.3
5          ใช้อิทธิพล / วางอำนาจ                                        52.1
6          เลือกปฏิบัติ                                                  42.0
7          ชู้สาว                                                      41.4
8          ไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม                                        40.9
9          ความไม่สามัคคี                                               40.5
10          ไม่มีความรับผิดชอบ                                           40.5

ตารางที่ 4 แสดงการจัดอันดับ พฤติกรรมของข้าราชการและนักการเมืองที่อยากเห็น ในปี 2555 ในปีใหม่นี้
อันดับที่          พฤติกรรมของข้าราชการและนักการเมืองที่อยากเห็นมาก ในปี 2555 ปีใหม่นี้     ค่าร้อยละ
1          ซื่อสัตย์ / สุจริต                                                      70.4
2          ขยัน / ตั้งใจทำงาน / พูดจริง ทำจริง                                     65.9
3          เอาใจใส่ประชาชนมากกว่านี้ /บริการประชาชนให้เต็มที่เต็มความสามารถ /          64.0
4          ใช้ความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย                      61.1
5          รับผิดชอบต่อสังคมให้มากขึ้น                                              52.8
6          เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน / มีมารยาท                                    52.2
7          ความสามัคคี                                                         52.0
8          ปราบปรามยาเสพติด                                                   51.3
9          ให้ความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ                                          50.3
10          ไม่เห็นแก่ตัว / ผลประโยชน์ส่วนรวม มากกว่า ส่วนตัว                         50.1

ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความหวัง และความกลัวในปีใหม่ 2555 นี้
อันดับที่          ความหวัง และความกลัว                     ค่าร้อยละ
1          มีความหวังที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าในปีใหม่นี้          53.8
2          มีความกลัวต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า             46.2
          รวมทั้งสิ้น                                     100.0

ตารางที่ 6 แสดง 5 อันดับค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ประเภทของความหวังในปีใหม่ 2555 นี้
(เฉพาะกลุ่มคนที่มีความหวังและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
อันดับที่          ประเภทความหวัง                                                      ค่าร้อยละ
1          บ้านเมืองสงบสุข คนไทยรักกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลมีไมตรีจิตต่อกัน                          82.9
2          รัฐบาลทำตามนโยบายหาเสียง ค่าจ้างแรงงาน 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท
           บัตรเครดิตชาวนา บัตรเครดิตพลังงาน เป็นต้น                                      73.5
3          เศรษฐกิจจะดีขึ้น                                                            62.8
4          ความเป็นธรรมทางสังคม ไม่เลือกปฏิบัติ                                           60.1
5          จะได้สังคมที่มีคุณภาพดีขึ้น                                                      59.3

ตารางที่ 7 แสดง 5 อันดับค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ประเภทของความกลัวในปีใหม่ 2555 นี้
(เฉพาะกลุ่มคนที่กลัว และตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
อันดับที่          ประเภทความกลัว                    ค่าร้อยละ
1          ความวุ่นวาย แตกแยกรุนแรงของคนในชาติ       80.7
2          ปัญหาราคาสินค้าสูง ภาวะเงินเฟ้อ             71.0
3          ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว              68.3
4          อาชญากรรมและยาเสพติด                   65.9
5          ปัญหาทุจริต คอรัปชั่น                       63.3

ตารางที่ 8 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความเชื่อมั่นต่อประเด็นสำคัญทางการเมืองด้านต่างๆ
อันดับที่          ประเด็นสำคัญทางการเมือง                                                 เชื่อมั่น      ไม่เชื่อมั่น
1          การแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการแก้ปัญหาความขัดแย้งแตกแยก                                 43.9        56.1
2          บรรดานักการเมืองและข้าราชการยุคนี้จะซื่อสัตย์สุจริต ไม่คดโกง                           20.6        79.4
3          บรรดาแกนนำพรรคไทยรักไทยบ้านเลขที่ 111 จะทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพมากกว่ารัฐมนตรีชุดปัจจุบัน 66.8        33.2

ตารางที่ 9 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความขัดแย้งรุนแรงทางการเมือง
อันดับที่          ความคิดเห็น             ร้อยละ
1          แตกแยกรุนแรงมากขึ้น          48.7
2          เหมือนเดิม                  33.9
3          ลดลง                      17.4
          รวมทั้งสิ้น                   100.0

--เอแบคโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ