รายงานระบุว่า สาเหตุที่จีดีพีฟิลิปปินส์ขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2554 เนื่องจากการใช้จ่ายของภาครัฐหดตัวลง และผลผลิตทางการเกษตรลดลงเพราะได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุน
สำหรับปัจจัยที่หนุนจีดีพีขยายตัวในไตรมาส 3 ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ซึ่งขยายตัว 7.6% และ 5.2% ตามลำดับ เมื่อเทียบรายปี ขณะที่การบริโภคภาคครัวเรือนปรับตัวขึ้น 5.2% ส่วนการบริโภคในภาครัฐลดลง 2.6% สำหรับการส่งออกและการนำเข้าขยายตัว 10.1% และ 5.8% ตามลำดับ
เมื่อเทียบรายไตรมาส จีดีพีของฟิลิปปินส์ในไตรมาส 3 ขยายตัวชะลอลงจากอัตรา 6.4% ในไตรมาส 2 ส่วนจีดีพีเฉลี่ยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 5.8% ต่ำกว่าเป้าหมายตลอดทั้งปีของรัฐบาลซึ่งอยู่ที่ 6.5-7.5%