รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจจากประเทศสมาชิกกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มาร่วมพูดคุยกันในวันนี้ เพื่อผลักดันให้การเจรจาข้อตกลงทางการค้าระดับภูมิภาคมีความคืบหน้ามากขึ้น
นายรามอน โลเปซ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของฟิลิปปินส์กล่าวในการแถลงข่าวว่า บรรดารัฐมนตรีต่างทำงานกันอย่างหนักเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญ ซึ่งก็คือความล่าช้าในการเจรจา และมองหาทางเลือกที่มีความยืดหยุ่นเพื่อให้การเจรจาเดินหน้าต่อไป
โลเปซกล่าวว่า "ที่ประชุมรัฐมนตรีจะสรุปองค์ประกอบหลักของ RCEP เพื่อให้เกิดผลลัพธ์สำคัญภายในปี 2560 ซึ่งการเจรจาได้ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าจะสรุปผลให้ได้ภายในสิ้นปีดังกล่าว"
อย่างไรก็ดี ระหว่างการเปิดการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โลเปซก็ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และคู่เจรจาช่วยผลักดันการเจรจา RCEP อย่างเร่งด่วน โดยระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
โลเปซกล่าวว่า บทสรุปของการเจรจา RCEP ยังคงเป็นวาระสำคัญในการประชุมเศรษฐกิจทั้งหมดของอาเซียน และนี่ก็เป็นภาระกิจที่สำคัญที่สุดของฟิลิปปินส์ในฐานะประธานอาเซียนประจำปี 2560 ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี ของการก่อตั้งสมาคมอาเซียนพอดี
นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องสรุปประเด็นสำคัญๆ ให้ได้ก่อนที่การประชุมระดับคณะกรรมการเจรจาการค้า RCEP จะเริ่มขึ้นที่เกาหลีใต้ในเดือนหน้า และการประชุมผู้นำอาเซียนจะเปิดฉากขึ้นที่กรุงมะนิลาในเดือนพ.ย.นี้
ทั้งนี้ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เป็นข้อตกลงการค้าเสรี เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตลาดต่างๆ ในอาเซียน โดยมีสมาชิกเข้าร่วมเจรจาทั้งหมด 16 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไน, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ลาว, มาเลเซีย, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทย และเวียดนาม และคู่ค้าสำคัญของประเทศเหล่านั้นอย่าง จีน, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, อินเดีย, ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ ซึ่งความตกลง RCEP ดังกล่าวจะช่วยขยายตลาดอาเซียนจาก 600 ล้านคนเป็น 3.5 พันล้านคน
การเจรจา RCEP เริ่มขึ้นเมื่อเดือนพ.ย. 2555 ครอบคลุมทั้งในด้านการค้าและการบริการ, การลงทุน, เศรษฐกิจ, ความร่วมมือทางเทคนิค, การคุ้มครองสิทธิของทรัพย์สินทางปัญญา, นโยบายด้านการแข่งขัน รวมถึงการระงับข้อพิพาทและอื่นๆ โดยการเจรจานี้ถูกมองว่าจะเป็นเวทีที่ดีสำหรับภูมิภาคในการเจรจาร่วมกับกลุ่มภูมิภาคอื่นๆ