ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติรับรองข้อมติในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี การก่อตั้งอาเซียน

ข่าวต่างประเทศ Friday July 21, 2017 15:43 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations General Assembly) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจำนวน ๑๙๓ ประเทศ ได้รับรองข้อมติ “Commemoration of the fiftieth anniversary of the Association of Southeast Asian Nations” ในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี การก่อตั้งอาเซียน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

(๑) แสดงความยินดีในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี การก่อตั้งอาเซียน และยอมรับบทบาทของอาเซียนในฐานะองค์กรระดับภูมิภาคที่สนับสนุนการทูตพหุภาคี และส่งเสริมสันติสุข ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค ผ่านสถาปัตยกรรมในภูมิภาคที่อาเซียนมีบทบาทนำ นอกจากนี้ ย้ำถึงความสำคัญของการเป็นแกนกลางและอันหนึ่งอันเดียวกันของvเซียนที่จะช่วยเสริมสร้างสถาปัตยกรรมการเมืองความมั่นคงในภูมิภาค

(๒) ยอมรับบทบาทของอาเซียนในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง การเจริญ เติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และการพัฒนาในด้านสังคมและวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

(๓) สนับสนุนอาเซียนและสหประชาชาติหามาตรการในการพัฒนาความร่วมมือไปสู่การปฏิบัติร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ภายใต้แผนปฏิบัติการในการส่งเสริมความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมตามปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติ พ.ศ. ๒๕๕๙ – ๒๕๖๓ (Joint Declaration on Comprehensive Partnership between ASEAN and the United Nations 2016 - 2020)

(๔) สนับสนุนให้สหประชาชาติทำงานใกล้ชิดกับอาเซียนมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการบรรลุวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ๒๐๒๕ (ASEAN Vision 2025) และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ๒๐๓๐ ของสหประชาชาติ (UN’s 2030 Agenda for Sustainable Development) ให้สอดคล้องกันอย่างเป็นรูปธรรม

(๕) สนับสนุนให้ประเทศสมาชิกและหน่วยงานต่าง ๆ ในสหประชาชาติ รวมทั้งหน่วยงานในระดับอนุภูมิภาค ระดับภูมิภาค และระดับโลกอื่น ๆ ระลึกถึงการครบรอบ ๕๐ ปี การก่อตั้งอาเซียน โดยเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองตลอดทั้งปีนี้

อนึ่ง ประเทศไทยเป็นผู้ประสานงานของอาเซียนด้านการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ๒๐๒๕ (ASEAN Vision 2025) และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ๒๐๓๐ ของสหประชาชาติ (UN’s 2030 Agenda for Sustainable Development) ตามมติของที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ที่เวียงจันทน์

--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ