รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2557

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 19, 2014 11:19 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2557

Summary:

1. ครม.เห็นชอบเพิ่มค่าครองชีพข้าราชการชั้นผู้น้อย

2. ธปท.เผยสินเชื่อแบงก์ Q3/57 อยู่ที่ร้อยละ 5.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน

3. ราคาบ้านใหม่ของจีน เดือน ต.ค. 57 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2

1. ครม.เห็นชอบเพิ่มค่าครองชีพข้าราชการชั้นผู้น้อย
  • รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มค่าครองชีพ โดยข้าราชการและลูกจ้างชั่วคราวในส่วนราชการที่ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึง 12,285 บาท ให้ได้รับการครองชีพชั่วคราวเพิ่มอีก 1,500 บาท แต่ต้องไม่เกินจำนวนเงินเดือนหรือค่าจ้าง 12,285 บาท ส่วนที่สองลูกจ้างชั่วคราวหรือทหารกองประจำการที่ไม่ถึง 9,000 บาท ก็เพิ่มให้ครบ 9,000 บาท สำหรับระเบียบฉบับใหม่ จะปรับฐานเงินเดือนใหม่ว่า 13,285 บาท และปรับเงินค่าครองชีพชั่วคราว จากเดิมอัตรา 1,500 บาท เป็น 2,000 บาท โดยต้องไม่เกิน 13,285 บาท สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อยหรือทหารกองประจำการ ผู้มีรายได้ไม่เกิน 10,000 บาท จะให้เพิ่มค่าครองชีพไม่เกิน 10,000 บาท
  • สศค. วิเคราะห์ว่า 1) การที่ค่าครองชีพปรับเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อในช่วง 10 เดือนแรกของปี 57 อยู่ที่ร้อยละ 2.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของข้าราชการ 2) การปรับเพิ่มค่าครองชีพให้กับข้าราชการและลูกจ้างชั่วคราวดังกล่าว จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้น และส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนในปี 57 และปี 58 ขยายตัวตามที่ สศค.คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 1.4 และร้อยละ 3.7 ตามลำดับ และ 3)จากการที่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว จะส่งผลต่อเนื่องให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ต่อเนื่อง โดย สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 57 และปี 58 จะขยายตัวร้อยละ 1.2 - 1.7 และร้อยละ 4.1
2. ธปท.เผยสินเชื่อแบงก์Q3/57 อยู่ที่ร้อยละ 5.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
  • ผู้อานวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่าสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ ในไตรมาส 3 ปี 57 ขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 5.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 7.3 ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ชะลอลงเป็นไตรมาสที่ 8 ติดต่อกัน ขณะที่คุณภาพสินเชื่อด้อยลงเล็กน้อย โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 1.03 หมื่นล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มมาจากสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค
  • สศค. วิเคราะห์ว่า 1) การที่สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ ที่ขยายตัวชะลอลงนั้น สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน 2) คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 57 ตามความเชื่อมั่นของภาคเอกชนที่มีต่อเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลให้สินเชื่อกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นในระยะต่อไป และ 3) หากพิจารณาถึงสถานภาพของธนาคารพาณิชย์ พบว่ายังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่ง สะท้อนจากสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 2.3 ของสินเชื่อรวม ขณะที่สัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 17.1 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ 8.5
3. ราคาบ้านใหม่ของจีน เดือน ต.ค. 57 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงาน ราคาบ้านใหม่ เดือน ต.ค. 57 หดตัวร้อยละ -2.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -1.1 และนับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ก่อให้เกิดความกังวลว่าการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งคิดเป็นราวร้อยละ 15.0 ของ GDP อาจส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า 1) ราคาบ้านใหม่ของจีนนั้นเริ่มมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงมาตั้งแต่ต้นปี 57 ที่ผ่านมา โดยในเดือน ม.ค. 57 ขยายตัวร้อยละ 9.0 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเริ่มขยายตัวชะลอลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งหดตัวในที่สุดเมื่อเดือน ส.ค. 57 ทั้งนี้ เป็นผลจากทางการจีนได้พยายามปรับลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ลง ผ่านมาตรการต่างๆ เช่น การปรับเพิ่ม Reserve Requirement ของธนาคารพาณิชย์ และการกำกับการให้สินเชื่ออย่างเข้มข้นขึ้น ซึ่งทางการจีนพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่กลางปี 56 และ 2) แต่ในสภาวะปัจจุบันที่เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง สะท้อนจาก ล่าสุด GDP ไตรมาสที่ 3 ที่ขยายตัวร้อยละ 7.3 ชะลอลงจากไตรมาสที่ 1 และ 2 ที่ขยายตัวร้อยละ 7.4 และ 7.5 ผลจากการบริโภคและการลงทุนที่ขยายตัวชะลอลงต่อเนื่อง ทางการจีนประสบกับความท้าทายใหม่คือการพยุงเศรษฐกิจให้ไม่ขยายตัวชะลอลงมากเกินไป และเริ่มมีมาตรการต่างๆ เช่น การอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ การลดอัตราเงินกู้และการลดเงินดาวน์ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ลง เพื่อประคองเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่ให้ชะลอตัวมากเกินไป จึงควรติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ทางการจีนจะสามารถดำเนินนโยบายเพื่อรักษาสมดุล เพื่อทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้อย่างยั่งยืนได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ สศค. ณ เดือน ต.ค. 57 คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนในปี 57 จะขยายตัวร้อยละ 7.3 (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 7.1-7.5 )

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ