รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 30 กันยายน 2558

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 30 กันยายน 2558

1. สศก. ย้าภาคเกษตรต้องปรับตัวเผชิญการเปลี่ยนแปลง

2. S&P คงอันดับเรตติ้งไทยไว้ที่ BBB+

3. เวียดนามเผย GDP ไตรมาส 3/58 ขยายตัวร้อยละ 6.81 จากแรงหนุนด้านลงทุน-ส่งออก

• สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยบทวิเคราะห์การปรับตัวของภาคเกษตรไทยต่อปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงภายใต้บริบทใหม่ (New Normal) ย้ำต้องสร้างสร้างความเข้าใจให้เห็นคุณค่าของการใช้น้ำอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีทรัพยากรใช้อย่างเพียงพอและคุ้มค่ามากที่สุด
• สศค. วิเคราะห์ว่า ในบางพื้นที่ของประเทศไทยเริ่มส่งสัญญาณปรากฏการณ์ El nino (เอล นิโญ) กล่าวคือ การเกิดขึ้นอย่างผิดปกติของน้าทะเลบริเวณตอนกลางและตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน อันเกิดจากการอ่อนก้าลังของกระแสลม ซึ่งผลกระทบที่เกิดจากปรากฏณ์การดังกล่าวที่ชัดเจน คือ เกิดภัยแล้งก่อให้เกิดผลเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกร พบว่าเดือนสิงหาคม 58 ส้าหรับดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -11.1 ต่อปี ตามการหดตัวของผลผลิตในหมวดพืชผลเป็นส้าคัญจากผลผลิตข้าวเปลือก มันส้าปะหลัง ข้าวโพด และปาล์มน้ามัน ตามผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรหดตัวเช่นกัน ท้าให้รายได้เกษตรกรยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -1.3 ต่อปี อย่างไรก็ดี ภาคเกษตรต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทั้งนี้ระดับปริมาณน้าในเขื่อน ณ ปัจจุบัน (22 ก.ย. 58) ทั้งประเทศอยู่ที่ 37,253 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 53 ของระดับน้ากักเก็บและสามารถใช้ได้จริงร้อยละ 20 ของปริมาณน้ากักเก็บ จับตา: ปริมาณน้าในเขื่อนและผลผลิตสินค้าเกษตรในช่วงที่เหลือของปี 58

• นายกิมเอ็ง ตัน ผู้อำนวยการอาวุโสการจัดอันดับเครดิตประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) กล่าวว่า S&P ยังคงอันดับเครดิตของประเทศไทยไว้ที่ระดับ BBB+ โดยมีมุมมอง Stable เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในไทยดีขึ้น โดยทาง S&P ยังคงติดตามการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นปัจจัยที่ให้น้ำหนักมากที่สุดว่าจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ รวมทั้งติดตามว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนด้านการศึกษาจะเกิดผลสำเร็จหรือไม่
• สศค. วิเคราะห์ว่า การคงอันดับเครดิตของประเทศไทยไว้ที่ระดับ BBB+ ในมุมมองของ S&P นั้น เนื่องจากเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวก็ตาม โดยอัตราการว่างงานในเดือนส.ค. 58 ยังคงอยู่ในระดับต้าที่ร้อยละ 1.0 ของก้าลังแรงงาน ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปหดตัวร้อยละ -1.2 ต่อปี เป็นผลมาจากราคาน้ามันเชื้อเพลิงยังทรงตัวอยู่ในระดับต้า ประกอบกับมีการปรับลดค่าไฟฟ้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี ส้าหรับสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ล่าสุด ณ สิ้นเดือนก.ค. 58 อยู่ที่ร้อยละ 42.9 ต้ากว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลัง นอกจากนั้นเสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศยังสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ โดยทุนส้ารองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนส.ค. 58 อยู่ในระดับสูงที่ 155.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นประมาณ 2.9 เท่า จับตา: มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 58

• สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นของเวียดนามในไตรมาส 3 ปี 58 ขยายตัวร้อยละ 6.81 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากช่วงไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 6.47 โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนของต่างชาติ และการขยายตัวของภาคการส่งออก
• สศค. วิเคราะห์ว่า 1) เศรษฐกิจเวียดนามส่งสัญญาณขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกปี 58 ที่ขยายตัวร้อยละ 6.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนจากการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยในเดือน ส.ค. 58 การส่งออกเวียดนาม ขยายตัวร้อยละ 9.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 9.8 ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของเวียดนาม ด้วยสัดส่วนร้อยละ 20 ของการส่งออกเวียดนามรวม สอดคล้องกับเครื่องชี้เศรษฐกิจอื่นๆ อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม ในเดือน ส.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 51.3 จุด และยอดค้าปลีกที่ขยายตัวร้อยละ 12.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 2) สศค. คาดว่า GDP ของเวียดนามในปี 58 จะขยายตัวที่ร้อยละ 6.0 ประมาณการ ณ เดือน ก.ค. 58 และจะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในเดือนต.ค.นี้ จับตา: อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในช่วงที่เหลือของปี 58

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257