รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 29 สิงหาคม 2559

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 29 สิงหาคม 2559

1. สศก. ชี้ภาพรวมดัชนีราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

2. พาณิชย์รุกจัดงานมหกรรมการค้าชายแดน

3. คุโรดะ ย้ำ BOJ พร้อมผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม

• สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเปิดเผยว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตรประจำเดือน ก.ค. 59 มีการปรับตัวสูงขึ้นจากสินค้าประเภทข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปปะรดโรงงาน และปาล์มน้ำมัน เนื่องจากผลผลิตลดลงจากเดือนที่ผ่านมา รวมถึงราคายางพาราที่ปรับสูงขึ้นตามทิศทางตลาดล่วงหน้าโตเกียว อย่างไรก็ดี สินค้าบางประเภทมีราคาปรับตัวลดลง อาทิ มันสำปะหลัง จากการที่ฝนตกทำให้คุณภาพลดลง และสุกรมีราคาลดลงจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง
• สศค. วิเคราะห์ว่า จากสถานการณ์ล่าสุดเดือน ก.ค. 59 ดัชนีราคาสินค้าเกษตรขยายตัวได้ถึง ร้อยละ 16.2 และหากพิจารณาในช่วง 7 เดือนแรก พบว่าสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นการปรับตัวดีขึ้นหลังจากในช่วงปีก่อนจนถึงไตรมาสแรกของปีนี้ที่ราคาสินค้าเกษตรมีการหดตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นปัจจัยกดดันสำคัญของเศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ของประเทศซึ่งเป็นเกษตรกร (ประมาณร้อยละ 40 ของกำลังแรงงาน) มีรายได้ลดลง อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้มีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรกลับมามีรายได้อีกครั้ง จึงส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งที่ร้อยละ 3.8 ซึ่งหากสถานการณ์ด้านราคาสินค้าเกษตรยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง ก็ย่อมจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของปี 59 โดยสศค. ประมาณการไว้ล่าสุด ณ เดือนก.ค. 59 ว่าจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 3.3 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.0 -3.6)

• กระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดมหกรรมส่งเสริมและขยายการค้าชายแดนในเมืองตองยีประเทศเมียนมาระหว่างวันที่26-30 ส.ค. 59 ระหว่างวันที่ 23-27 ก.ย. 59 จัดงานที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา และในวันที่ 30 ก.ย. 59 จะจัดงานที่รัฐกลันตันประเทศมาเลเซีย โดยมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดงาน ซึ่งในปี 59 ตั้งเป้ามูลค่าการค้าชายแดน ผ่านแดน และการค้าหน้าด่านไว้ประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท
• สศค. วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลภาพรวมการค้าชายแดนในช่วง 7 เดือนแรกของปี 59 มีมูลค่า 582,797 ล้านบาท ขยายตัวที่ร้อยละ 2.20 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการส่งออก 348,567 ล้านบาท ขยายตัวที่ร้อยละ 3.42 และการนำเข้า 234,230 ล้านบาท ขยายตัวที่ร้อยละ 0.43 ส่งผลให้เกินดุลการค้า 114,337 ล้านบาท ซึ่งการที่กระทรวงพาณิชย์จะจัดงานส่งเสริมการค้าชายแดนขึ้นนั้น เป็นผลดีในแง่ของการช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือทางการค้าระหว่างภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งจะเป็นการช่วยพัฒนาผู้ประกอบการไทยในการสร้างตลาด สร้างเครือข่ายทางธุรกิจกับประเทศเพื่อนบ้านได้ และเพิ่มช่องทางและโอกาสของสินค้าไทยในประเทศเพื่อนบ้าน และเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนของไทยได้ ทั้งนี้ ยังส่งผลดีต่อการส่งออกในอนาคตให้สดใสได้

• ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า ยังมีโอกาสมากมายสำหรับแบงก์ชาติญี่ปุ่นที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมระบุด้วยว่า BOJ อาจลดดอกเบี้ยลงอีก เพื่อการบรรลุเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพของราคา
• สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจญี่ปุ่นล่าสุดในไตรมาสที่ 2 เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยขยายตัวร้อยละ 0.6 จากที่ขยายตัวร้อยละ 0.2 ในไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงหดตัว โดยล่าสุดในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ร้อยละ -0.5 และปรับลดลงรุนแรงที่สุดในรอบ 3 ปี ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงมีพื้นที่ในการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมได้อีก ทั้งนี้ ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศ คู่ค้าที่สำคัญกับประเทศไทย และสศค. ได้ติดตามภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ซึ่งในปี 59 สศค. คาดว่า GDP ญี่ปุ่น จะขยายตัวร้อยละ 0.6 เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 0.5 อย่างไรก็ตาม จะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในเดือน ต.ค. เพื่อให้ข้อมูลสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257