เอแบคโพลล์: ความคิดเห็นของประชาชนต่อมลพิษทางน้ำในประเทศไทย

ข่าวผลสำรวจ Monday March 21, 2011 11:19 —เอแบคโพลล์

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ร่วมกับ คุณพลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสาร พิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง “โครงการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อมลพิษทางน้ำในประเทศไทย : กรณีศึกษาประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และประชาชนรอบเขตนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง” โดยสำรวจประชาชนอายุ 18-60 ปี เมื่อวันที่ 17 มกราคม—11 มีนาคม 2554 จำนวน 1,550 ตัวอย่าง ผลสำรวจประเด็นสำคัญสรุปได้ดังนี้

ดร.นพดล ได้กล่าวถึงผลการสำรวจที่ค้นพบในครั้งนี้ว่าประชาชนที่ถูกศึกษาร้อยละ 70.6 ระบุว่ามีความรุนแรงของปัญหามลพิษทางน้ำใน ประเทศไทยในระดับมาก-มากที่สุด ร้อยละ 21.2 ระบุปานกลาง ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 8.2 เท่านั้นระบุน้อย-ไม่รุนแรงเลย

ทั้งนี้เมื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหามลพิษทางน้ำในประเด็นต่างๆ พบว่า ประชาชนตัวอย่างส่วนใหญ่มากกว่า 2 ใน 3 เห็นด้วยว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางน้ำกับทุกประเด็นที่ทำการสำรวจ โดยร้อยละ 83.8 เห็นด้วยว่ามลพิษทางน้ำเป็นปัญหาสำคัญต่อสิ่ง แวดล้อม และควรเร่งป้องกันแก้ไข ร้อยละ 75.2 เห็นด้วยว่าน้ำเน่าเสีย/มลพิษทางน้ำเป็นปัญหาสำคัญในระดับประเทศ ร้อยละ 75.0 เห็นด้วยว่า มลพิษทางน้ำเป็นภัยคุกคามต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำนั้นพบว่า ร้อยละ 80.2 เห็นว่าควรมีกฎหมายกำหนดให้โรงงาน อุตสาหกรรมเปิดเผยข้อมูล การปลดปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมและให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้ ร้อยละ 79.6 เห็นด้วยว่าโรงงานอุตสาหกรรมควรที่จะใช้ วัตถุดิบในการผลิตสินค้าที่ไม่เป็นอันตรายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเท่านั้น ร้อยละ 78.7 ระบุทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยควรเน้น ไปทางด้านอุตสาหกรรมที่สะอาดไม่ก่อมลพิษ ร้อยละ 76.4 เห็นด้วยว่าภาคอุตสาหกรรมควรต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยต้องพัฒนาให้เกิน กว่าข้อบังคับขั้นต่ำของกฎหมาย และร้อยละ 76.4 ระบุประชาชนควรได้รับการเข้าถึงข้อมูลการปลดปล่อยมลพิษจากแหล่งกำเนิดอุตสาหกรรม ซึ่งเป็น สิทธิพื้นฐานที่ประชาชนต้องได้รับ นอกจากนี้ร้อยละ 74.3 เห็นด้วยว่ารัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบยังปฏิบัติไม่เพียงพอต่อการป้องกันและแก้ไข ปัญหามลพิษทางน้ำ ในขณะที่ร้อยละ 69.4 เห็นด้วยว่ากฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยน้ำทิ้งที่มีอยู่ในปัจจุบันหย่อนยาน และไม่เพียงพอในการแก้ปัญหามลพิษ ทางน้ำ ในขณะที่ร้อยละ 67.2 เห็นด้วยว่าหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบป้องกันมลพิษทางน้ำ หย่อนยาน หรือไม่เคร่งครัดในการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ก่อ มลพิษ ดร.นพดลกล่าว

ดร.นพดล กล่าวต่อว่าเมื่อคณะผู้วิจัยได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่ถูกศึกษากรณีความรู้สึกกังวลต่อปัญหามลพิษทางน้ำในประเด็น ต่างๆ พบว่าปัญหาที่ประชาชนมีความกังวลมาก-มากที่สุด มีดังต่อไปนี้ ร้อยละ 91.5 ระบุปัญหามลพิษทางน้ำรวมกับปัญหาโลกร้อนจะเป็นปัจจัยเร่งให้เกิด การขาดแคลนน้ำสะอาดในอนาคต ร้อยละ 90.3 ระบุปัญหาน้ำเน่าเสียตามคูคลองและแม่น้ำ ร้อยละ 89.9 ปัญหาขยะในแหล่งน้ำ ร้อยละ 84.5 ระบุปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่เกิดจากมลพิษทางน้ำ และร้อยละ 84.1 ระบุการปนเปื้อนสารพิษในห่วงโซ่อาหารหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่าประชาชนมีความกังวลต่อปัญหามลพิษทางน้ำในประเด็นสำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย ความกังวลในความอุดมสมบูรณ์และ หลากหลายของสัตว์น้ำและพืชนานาชนิดจะลดลง (ร้อยละ 83.9) ความกังวลต่อโรงงานอุสาหกรรมในการปล่อยมลพิษลงสู่แม่น้ำลำคลอง (ร้อยละ 83.7) การใช้น้ำอย่างสิ้นเปลืองของคนไทย (ร้อยละ 83.5) การขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคในอนาคต (ร้อยละ 83.3) การปนเปื้อนของ สารพิษจากน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมสู่แหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตอุปโภคและบริโภค (ร้อยละ 79.4) หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบไม่สามารถควบคุมภาค อุตสาหกรรมในการปล่อยมลพิษลงสู่แหล่งน้ำได้ (ร้อยละ 77.7) การขาดแคลนแหล่งน้ำที่มีคุณภาพเพียงพอสำหรับประกอบอาชีพทางการเกษตร (ร้อย ละ 75.7) การขาดแคลน แหล่งน้ำสำหรับที่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ (ร้อยละ 67.6) และความกังวลในประเด็นสำคัญอื่นๆ อาทิ การบริหาร จัดการมลพิษทางน้ำไม่ดี /ไม่มีการพัฒนา รวมทั้งการขาดจิตสำนึกของประชาชนเกี่ยวกับปัญหามลพิษทางน้ำ เป็นต้น

นอกจากนี้เมื่อสอบถามถึงความรู้สึกกังวลต่อการประสบปัญหามลพิษของแม่น้ำ 4 สายหลักในภาคกลาง พบว่าส่วนใหญ่ มีความกังวลมาก- มากที่สุด ต่อแม่น้ำเจ้าพระยา คิดเป็นร้อยละ 74.5 รองลงมาคือ แม่น้ำบางปะกง คิดเป็นร้อยละ 58.0 แม่น้ำแม่กลอง คิดเป็นร้อยละ 52.2 และ แม่น้ำท่าจีน คิดเป็นร้อยละ 52.0 ตามลำดับ

สำหรับความคิดเห็นต่อแหล่งกำเนิดมลพิษทางน้ำที่เป็นประเภทสารพิษอันตราย นั้นพบว่าประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชนในกลุ่มที่พักอาศัยบริเวณโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 3 แห่ง กว่าร้อยละ 90 เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางน้ำที่เป็น ประเภทสารพิษอันตราย นอกเหนือไปจาก บ้านเรือนที่พักอาศัย และภาคเกษตรกรรม ที่ประชาชนบางส่วนเห็นว่าเป็นแหล่งกำเนิดของมลพิษทางน้ำดัง กล่าวด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามถึงความจริงจังต่อการแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความจริงจังต่อการแก้ไขปัญหามลพิษ ทางน้ำ พบว่า โดยภาพรวมประชาชนที่ถูกศึกษาร้อยละ 32.2 ระบุมีความจริงจังมาก-มากที่สุด ร้อยละ 28.6 ระบุจริงจังปานกลาง และ ร้อยละ 39.2 ระบุจริงจังน้อย-ไม่จริงจังเลย ทั้งนี้เมื่อพิจารณาคะแนนเฉลี่ยความจริงจังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำนั้นพบว่าได้ คะแนน 4.65 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน

ผลสำรวจที่กล่าวมาข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่าปัญหามลพิษทางน้ำในประเทศไทยอยู่ในระดับรุนแรง และเป็นปัญหาที่ประเทศไทยเผชิญมาอย่าง ยาวนานแล้ว ในขณะที่รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีความจริงจังในการเข้ามาแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังมีเสียงสะท้อนจากประชาชนว่าการ บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับปัญหามลพิษทางน้ำยังหย่อนหยานและไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่มีความเอาจริงเอาจังมากพอในการ แก้ไขปัญหา ซึ่งหากไม่มีการส่งเสริมหรือรณรงค์รักษาหรือฟื้นฟูสภาพแหล่งน้ำที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์แล้ว แน่นอนว่าในอนาคตจะต้องเกิด ภาวะขาดแคลนน้ำสะอาดในการอุปโภคบริโภคได้

“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน รวมทั้งองค์กรในการอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมควรให้ความจริงจังและ ต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งหาแนวทางการป้องกันไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียจากแหล่งต่างๆ ลงสู่แหล่งน้ำ โดยเฉพาะน้ำเสียจากภาคอุตสาหกรรมที่ มีความสกปรกสูง ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมเองควรมีความรับผิดชอบมากกว่าข้อบังคับขั้นต่ำของกฎหมาย และยึดหลักเน้นปรับปรุงกระบวนการผลิตไม่ให้ ก่อมลพิษ ไม่ใช้สารเคมีอันตราย และมีความโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลการปล่อยมลพิษ โดยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบได้” ดร.นพ ดล กล่าว

ในขณะที่คุณพลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว ผลสำรวจได้แสดงให้เห็นว่าชาว ไทยอยากเห็นรัฐบาลลงมือแก้ไขมลพิษจากภาคอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง ซึ่งกำลังเป็นปัญหาคุกคามแหล่งน้ำของประเทศ ความโปร่งใสด้านการบริหาร จัดการและการเปิดเผยข้อมูลเป็นแนวทางที่จะสามารถนำสู่การแก้ไขปัญหามลพิษได้ในระยะยาว ทั้งนี้ภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมควรคำนึงถึงสิทธิการรับ รู้ของประชาชนเกี่ยวกับสารพิษอันตรายที่ใช้และปล่อยจากกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม โดยควรเร่งออกกฎหมายกำหนดให้อุตสาหกรรมจัดทำทำเนียบ การปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ หรือ “ทำเนียบการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม (Pollutant Release and Transfer Register: PRTR)” ซึ่งใช้หลักการความโปร่งใสด้านการรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม และสิทธิการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนเป็นตัวผลักดันให้เกิดการพัฒนาการลดมลพิษ และควรมีการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนมีความตระหนักรู้สึกหวงแหนแหล่งน้ำเพื่อช่วยกันรักษาและลดทอนปัญหาที่เกิดขึ้น

“กรีนพีซเชื่อว่าความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลด้านมลพิษนี้จะต้องมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม การปิดบังข้อมูลการใช้และการปล่อยสารพิษอันตรายนั้นจะยิ่งนำไปสู่ความคลุมเครือโดยเฉพาะในยามที่เกิดอุบัติเหตุ เช่นเดียวกับที่เราได้เรียนรู้จาก อุบัติภัยนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงหายนะภัยได้” คุณพลายกล่าวปิดท้าย

ลักษณะทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 60.9 เป็นหญิง ร้อยละ 39.1 เป็นชาย เมื่อพิจารณาอายุของ ตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 3.6 อายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 19.8 อายุระหว่าง 20-29 ปี ร้อยละ 18.7 อายุระหว่าง 30-39 ปี ร้อยละ 21.5 อายุระหว่าง 40-49 ปี และ ร้อยละ 36.4 อายุ 50 ปีขึ้นไป เมื่อพิจารณาการศึกษาที่ตัวอย่างสำเร็จในระดับชั้นสูงสุด พบว่า ตัวอย่างร้อย ละ 29.5 จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น/ต่ำกว่า รองลงมา ร้อยละ 24.3 จบมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. ร้อยละ 8.6 จบอนุปริญญา/ปวส. ร้อยละ 31.0 จบปริญญาตรี และร้อยละ 6.6 สูงกว่าปริญญาตรี ตามลำดับ ตัวอย่างร้อยละ 31.4 อาชีพค้าขาย/ธรุกิจส่วนตัว รองลงมาร้อยละ 22.6 อาชีพแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณ ร้อยละ 17.0 อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน/องค์กรเอกชน ร้อยละ 8.5 อาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 8.3 อาชีพนักเรียน/นักศึกษา ในขณะที่ประกอบวิชาชีพอิสระ เช่น ทนายความ สถาปนิก เกษตรกร/ประมง และรับจ้างทั่วไป/ว่างงาน มีสัด ส่วนไม่มากนักร้อยละ 12.2 และเมื่อพิจารณารายได้ของตัวอย่างร้อยละ 19.9 มีรายได้ส่วนบุคคลเฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท รองลงมาร้อย ละ 30.8 มีรายได้ระหว่าง 5,001 — 10,000 บาท ร้อยละ 14.7 มีรายได้ระหว่าง 10,001-15,000 บาท ร้อยละ 10.0 มีรายได้ระหว่าง 15,001- 20,000 บาท และร้อยละ 24.6 มีรายได้มากกว่า 20,000 บาท

รายละเอียดโปรดติดต่อ....

ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โทร 0-2719-1550 www.abacpoll.au.edu

หรือ.....กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โทร 0-2357-1921 ต่อ 115 หรือ 08-9487-0678

โปรดพิจารณารายละเอียดดังตารางต่อไปนี้

ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย ของตัวอย่าง ที่ระบุระดับความรุนแรงของปัญหามลพิษทางน้ำในประเทศไทย เปรียบเทียบความคิดเห็น

ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและประชาชนที่พักอาศัยบริเวณโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง

ลำดับที่      ความรุนแรงของปัญหามลพิษทางน้ำในประเทศไทย      ประชาชนโดยรอบพื้นที่    ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร/   ภาพรวม
                                                    นิคมอุตสาหกรรมค่าร้อยละ       ปริมณฑลค่าร้อยละ          ค่าร้อยละ
1          รุนแรงมาก-มากที่สุด                                 72.0                     70.0              70.6
2          ปานกลาง                                         21.4                     21.2              21.2
3          น้อย-ไม่รุนแรงเลย                                   6.6                      8.8               8.2
          รวมทั้งสิ้น                                         100.0                    100.0             100.0

คะแนนเฉลี่ยความความรุนแรงของปัญหามลพิษทางน้ำ

          (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)                          7.04 คะแนน                6.96 คะแนน       6.98 คะแนน

ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความคิดเห็นต่อประเด็นปัญหามลพิษทางน้ำ
ลำดับที่          ประเด็นมลพิษทางน้ำ                               เห็นด้วย  ค่อนข้างเห็นด้วย  ไม่ค่อยเห็นด้วย  ไม่เห็นด้วย   ไม่มีความเห็น  รวมทั้งสิ้น
1          มลพิษทางน้ำเป็นปัญหาสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และควรเร่งป้องกันแก้ไข  83.8       12.1          2.5        0.7          0.9     100.0
2          น้ำเน่าเสีย/มลพิษทางน้ำเป็นปัญหาสำคัญในระดับประเทศ          75.2       17.8          3.8        1.9          1.3     100.0
3          มลพิษทางน้ำเป็นภัยคุกคามต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต               75.0       17.0          4.5        2.1          1.4     100.0

ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความคิดเห็นต่อการแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำในปัจจุบัน
ลำดับที่          ประเด็นมลพิษทางน้ำ                                       เห็นด้วย  ค่อนข้างเห็นด้วย  ไม่ค่อยเห็นด้วย  ไม่เห็นด้วย   ไม่มีความเห็น  รวมทั้งสิ้น
1          ควรมีกฎหมายกำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมเปิดเผยข้อมูลการปลดปล่อยมลพิษ
           (ชนิดและปริมาณ) สู่สิ่งแวดล้อม และให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้             80.2       16.4          1.5          0.8          1.1    100.0
2          โรงงานอุตสาหกรรมควรที่จะใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้าไม่เป็นอันตรายและ
           เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเท่านั้น                               79.6       15.6          2.7          0.9          1.2    100.0
3          ทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยควรเน้นไปทางด้านอุตสาหกรรม
           ที่สะอาดไม่ก่อมลพิษ                                              78.7       15.7          3.1          1.2          1.3    100.0
4          ภาคอุตสาหกรรมควรต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมโดยต้องพัฒนา
           ให้เกินกว่าข้อบังคับขั้นต่ำของกฎหมาย                                 76.4       18.7          2.8          1.0          1.1    100.0
5          ประชาชนควรได้รับการเข้าถึงข้อมูลการปลดปล่อยมลพิษ (ชนิดและปริมาณ)
           จากแหล่งกำเนิดอุตสาหกรรมเป็นสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนต้องได้รับ             76.4       18.7          2.8          1.0          1.1    100.0
6          รัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบยังปฏิบัติไม่เพียงพอต่อการแก้ไขป้องกัน
           ปัญหามลพิษทางน้ำ                                               74.3       18.0          4.0          1.2          2.5    100.0
7          กฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยน้ำทิ้งที่มีในปัจจุบัน หย่อนยาน และไม่เพียงพอ
           ในการแก้ปัญหามลพิษทางน้ำ                                        69.4       18.8          4.6          3.7          3.5    100.0
8          หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบป้องกันมลพิษทางน้ำ หย่อนยานในการบังคับ
           ใช้กฎหมายต่อผู้ก่อมลพิษ                                           67.2       20.5          5.8          3.0          3.5    100.0

ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุระดับความรู้สึกกังวลต่อมลพิษทางน้ำในด้านต่างๆ โดยภาพรวม
ลำดับที่          ประเด็นความกังวลต่อมลพิษทางน้ำในด้านต่างๆ          มาก-มากที่สุด   ปานกลาง   น้อย-น้อยที่สุด      รวมทั้งสิ้น
                                                             ค่าร้อยละ    ค่าร้อยละ     ค่าร้อยละ
1          ปัญหามลพิษทางน้ำรวมกับปัญหาโลกร้อนจะเป็นปัจจัย-
           เร่งให้เกิดการขาดแคลนน้ำสะอาดในอนาคต                   91.5       6.6          1.9          100.0
2          ปัญหาน้ำเน่าเสียตามคูคลอง และแม่น้ำ                       90.3       7.9          1.8          100.0
3          ปัญหาขยะในแหล่งน้ำ                                    89.9       8.3          1.8          100.0
4          ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่เกิดจากมลพิษทางน้ำ           84.5      13.5          2.0          100.0
5          การปนเปื้อนสารพิษในห่วงโซ่อาหาร หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว        84.1      13.8          2.1          100.0
6          ความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายของสัตว์น้ำและพืชนานาชนิดลดลง    83.9      13.6          2.5          100.0
7          โรงงานอุตสาหกรรมปล่อยมลพิษสู่แหล่งน้ำ                     83.7      13.0          3.3          100.0
8          การใช้น้ำอย่างสิ้นเปลืองของคนไทย                         83.5      14.2          2.3          100.0
9          การขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคในอนาคต                 83.3      12.9          3.8          100.0
10         การปนเปื้อนสารพิษจากน้ำทิ้งอุตสาหกรรมในแหล่งน้ำดิบ-
           สำหรับผลิตน้ำอุปโภคบริโภค                               79.4      16.9          3.7          100.0
11         หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบไม่สามารถควบคุม-
           ภาคอุตสาหกรรมในการปล่อยมลพิษสู่แหล่งน้ำได้                 77.7      17.1          5.2          100.0
12         การขาดแคลนแหล่งน้ำที่มีคุณภาพเพียงพอสำหรับประกอบอาชีพ-
           เช่น เลี้ยงปลา และการเกษตร                            75.7      18.9          5.4          100.0
13         การขาดแคลนแหล่งน้ำที่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ               67.6      25.3          7.1          100.0
14         อื่นๆ อาทิ การบริหารจัดการมลพิษทางน้ำไม่ดี-
           ไม่มีการพัฒนา ประชาชนขาดจิตสำนึก เป็นต้น                  45.1       2.9         52.0          100.0

ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความรู้สึกกังวลต่อแม่น้ำที่ประสบปัญหามลพิษ
ลำดับที่          แม่น้ำที่ประสบปัญหามลพิษ    มาก-มากที่สุดค่าร้อยละ   ปานกลางค่าร้อยละ   น้อย-น้อยที่สุดค่าร้อยละ  รวมทั้งสิ้น
1          แม่น้ำเจ้าพระยา                    74.5               22.6               2.9          100.0
2          แม่น้ำบางปะกง                     58.0               34.4               7.6          100.0
4          แม่น้ำแม่กลอง                      52.2               39.0               8.8          100.0
3          แม่น้ำท่าจีน                        52.0               39.5              8.5           100.0

ตารางที่ 6  แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุความคิดเห็นกรณีแหล่งกำเนิดมลพิษทางน้ำที่เป็นประเภทสารพิษอันตราย เปรียบเทียบ

ความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและประชาชนที่พักอาศัยบริเวณโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง

ลำดับที่          แหล่งกำเนิดมลพิษทางน้ำ    ประชาชนโดยรอบพื้นที่    ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร/   ภาพรวมค่าร้อยละ
                                    นิคมอุตสาหกรรมค่าร้อยละ        ปริมณฑลค่าร้อยละ
1          อุตสาหกรรม                      91.9                    86.0                   87.7
2          บ้านเรือน                         3.9                     9.1                    7.7
3          เกษตรกรรม                       2.5                     3.1                    2.9
4           ไม่ทราบ                         1.7                     1.8                    1.7
          รวมทั้งสิ้น                        100.0                   100.0                  100.0

ตารางที่ 7 แสดงค่าร้อยละที่ระบุระดับความจริงจังต่อการแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปรียบเทียบความคิดเห็นของ
ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและประชาชนที่พักอาศัยบริเวณโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง
ลำดับที่      ความจริงจังต่อการแก้ไขปัญหามลพิษ         ประชาชนโดยรอบพื้นที่     ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร/    ภาพรวมค่าร้อยละ
          ทางน้ำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง            นิคมอุตสาหกรรมค่าร้อยละ          ปริมณฑลค่าร้อยละ
1         จริงจังมาก-มากที่สุด                           32.2                     32.2                    32.2
2         ปานกลาง                                   31.2                     27.7                    28.6
3         น้อย-ไม่จริงจังเลย                            36.6                     40.1                    39.2
          รวมทั้งสิ้น                                  100.0                    100.0                   100.0

คะแนนเฉลี่ยความจริงจังต่อการแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ

          ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)  4.88 คะแนน              4.56 คะแนน             4.65 คะแนน

--เอแบคโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ