ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ “เอแบคเรียลไทม์โพลล์ (ABAC Real-Time Survey)” ที่เป็นการสำรวจจากครัวเรือนที่สุ่มตัวอย่างได้ทั่วประเทศตามหลักสถิติก่อน จากนั้นได้ติดตั้งโทรศัพท์ให้กับครัวเรือนที่เป็น ตัวอย่างเพื่อทำการสัมภาษณ์ได้อย่างรวดเร็วฉับไวภายในระยะเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง จากนั้นประมวลผลด้วยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยครั้งนี้ ได้ทำการสำรวจเรื่อง พรปีใหม่ดั้งเดิมที่คนไทยอยากได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนใน 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ จันทบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ชลบุรี เลย สกลนคร บุรีรัมย์ ขอนแก่น นครราชสีมา ตรัง และนครศรีธรรมราช จำนวนทั้งสิ้น 1,448 ครัวเรือน ในวันที่ 15 เมษายน 2552 พบว่า
ประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.1 ติดตามข่าวการเล่นน้ำสงกรานต์ผ่านสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ร้อยละ 23.9 ติดตาม บ้าง และร้อยละ 8.0 ไม่ได้ติดตามเลย
เมื่อสอบถามถึงข่าวดีต้อนรับปีใหม่ที่รับทราบช่วงเทศกาลสงกรานต์เมื่อตอบได้มากกว่า 1 ข้อ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.7 ระบุข่าวดี คือ กลุ่มผู้ชุมนุม นปช. ยอมยุติการชุมนุม รองลงมาคือร้อยละ 80.2 ระบุข่าวดีคือรัฐบาลยึดมั่นในกฎหมายจนสามารถควบคุมสถานการณ์วุ่นวายทางการ เมืองได้ ร้อยละ 64.5 ระบุคนไทยมีโอกาสเล่นน้ำสงกรานต์เหมือนทุกปีที่ผ่านมา ร้อยละ 62.9 ระบุคนไทยยังประพฤติปฏิบัติตามประเพณีปีใหม่แบบ ดั้งเดิม ร้อยละ 50.0 ระบุการจัดโซนนิ่งการเล่นน้ำสงกรานต์ ร้อยละ 43.5 ระบุรัฐบาลประกาศวันหยุดราชการเพิ่ม และร้อยละ 14.4 ระบุอื่นๆ เช่น คนไทยมีความสุข สินค้าไทยในตลาดโลก และข่าวประเพณีท้องถิ่นในประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ตาม ข่าวร้ายที่รับทราบช่วงเทศกาลสงกรานต์ในหมู่ประชาชนเมื่อตอบได้มากกว่า 1 ข้อ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.2 ระบุ ข่าวการก่อจลาจลของกลุ่มคนเสื้อแดง ร้อยละ 81.8 ระบุภาพลักษณ์ประเทศไทยเสื่อมเสียในสายตาต่างชาติ จากการจลาจลและโจมตีกันของนักการ เมืองไทย ร้อยละ 71.5 ระบุข่าวเศรษฐกิจแย่ ร้อยละ 62.7ระบุข่าวตัวเลขคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ ร้อยละ 59.6 ระบุข่าว 2 ชาว บ้านเสียชีวิตจากเหตุก่อความวุ่นวาย ร้อยละ 52.4 ระบุข่าวปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ ร้อยละ 44.8 ระบุข่าวการทะเลาะวิวาท ของกลุ่มวัยรุ่น และร้อยละ 39.0 ระบุข่าวฆาตกรรม ตามลำดับ
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.4 ระบุข่าวสารข้อมูลที่อยากเห็น อยากติดตาม คือ ข่าวคนไทยรักสามัคคีกัน ช่วยเหลือเกื้อกูล กัน รองลงมาคือ ร้อยละ 76.6 ระบุข่าวมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยรัฐบาล ร้อยละ 74.2 ระบุข่าวบันเทิง รายการตลกคลายเครียด ร้อยละ 65.9 ระบุแนวทางช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล ร้อยละ 58.2 ระบุข้อมูลการใช้ชีวิตพอเพียง ร้อยละ 57.7 ระบุข่าวประเพณีวัฒนธรรมไทย และ ร้อยละ 49.1 ระบุข้อมูลการจัดหางาน ตามลำดับ
ที่น่าสนใจคือ พรปีใหม่แบบดั้งเดิมที่ประชาชนอยากได้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.7 ระบุขอมีความสุขความเจริญ ร้อยละ 92.8 ระบุ อยากให้คนไทยรักกัน เลิกแบ่งสี แบ่งขั้ว มีความรัก ความเมตตาปราณี ร้อยละ 90.4 อยากอยู่อย่างปกติสุข ร้อยละ 83.9 ระบุขอประสบความ สำเร็จ สมหวัง และร้อยละ 83.3 ขอมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ ตามลำดับ
นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.9 ระบุข้อเสนอทางออกในการแก้ปัญหาประเทศไทย คือ ทุกฝ่ายหยุดเคลื่อนไหวตอบโต้โจมตี กัน เร่งช่วยกันแก้ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไปพร้อมกัน ร้อยละ 83.8 ระบุเร่งแก้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาต่างชาติ และจัด ประชุมอาเซียนใหม่ ร้อยละ 81.5 ระบุเร่งแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคมอย่างจริงจังต่อเนื่อง ร้อยละ 76.2 ระบุรณรงค์สร้างบรรยากาศความ สงบสุขในชุมชนและประเทศโดยรวม และร้อยละ 72.0 ระบุให้หยุดทำเพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ตามลำดับ
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า
ตัวอย่าง ร้อยละ 52.9 เป็นหญิง
ร้อยละ 47.1 เป็นชาย
ตัวอย่าง ร้อยละ 6.1 อายุต่ำกว่า 20 ปี
ร้อยละ 17.4 อายุระหว่าง 20 — 29 ปี
ร้อยละ 18.5 อายุระหว่าง 30 — 39 ปี
ร้อยละ 22.0 อายุระหว่าง 40 — 49 ปี
และร้อยละ 36.0 อายุ 50 ปีขึ้นไป
ตัวอย่าง ร้อยละ 61.8 มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
ในขณะที่ร้อยละ 32.5 มีการศึกษาระดับปริญญาตรี
และร้อยละ 5.7 มีการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
นอกจากนี้ ตัวอย่าง ร้อยละ 30.9 เกษตรกรรับจ้างใช้แรงงานทั่วไป
ร้อยละ 26.1 ค้าขาย ธุรกิจส่วนตัว
ร้อยละ 17.2 เป็นพนักงานเอกชน
ร้อยละ 11.1 ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ร้อยละ 6.6 นักศึกษา
ร้อยละ 5.8 แม่บ้าน เกษียณอายุ
และร้อยละ 2.3 ว่างงาน
โปรดพิจารณาประเด็นสำคัญที่ค้นพบในตารางต่อไปนี้