ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ วิจัยเชิงสำรวจภาคสนามเรื่อง ความคิดเห็นของสาธารณชนต่อการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ ภูเก็ต:กรณีตัวอย่างประชาชนใน 17 จังหวัด ทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ ปทุมธานี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี เพชรบุรี หนองบัวลำภู สกลนคร ศรีสะเกษ ขอนแก่น พัทลุง ระนอง และสุราษฎร์ธานี จำนวนทั้งสิ้น 2,417 ครัวเรือน ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 17 — 20 กรกฎาคม 2552 พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.1 ทราบข่าวการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ภูเก็ต ในขณะที่ร้อยละ 10.9 ไม่ทราบ และ ประชาชนทราบว่า ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ คือเลขาธิการอาเซียน เพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 16.5 ในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นร้อยละ 74.4 ในการสำรวจ ล่าสุด และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.3 รู้สึกภูมิใจที่มีคนไทยเป็นเลขาธิการอาเซียน โดยร้อยละ 64.1 เชื่อมั่นว่า ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ จะทำหน้าที่ เป็นเลขาธิการสู่ความสำเร็จในกลุ่มประเทศอาเซียน
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนเกินครึ่งหรือร้อยละ 53.6 เชื่อว่าความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนจะส่งผลทำให้ เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 46.4 ไม่คิดเช่นนั้น สำหรับ “วาระแห่งภูมิภาคอาเซียน”ที่ควรถูกหยิบยกขึ้นหารือในการประชุมผู้นำ กลุ่มประเทศอาเซียนปลายปีนี้ พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 93.2 ระบุเป็นความร่วมมือทางการค้าระหว่างกลุ่มประเทศต่างๆ รองลงมาคือร้อยละ 89.9 ระบุ ปัญหาโรคระบาดและระบบสาธารณสุข ร้อยละ 80.1 ระบุปัญหายาเสพติด ร้อยละ 76.8 ระบุการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมประเพณี เรียนรู้ ชีวิตความเป็นอยู่ระหว่างประชาชนในอาเซียน ร้อยละ 73.0 ระบุปัญหาผู้ลี้ภัย ร้อยละ 71.5 ระบุปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ร้อยละ 68.4 ระบุ ปัญหาค้ามนุษย์และแรงงานต่างด้าว ร้อยละ 63.5 ระบุปัญหาพื้นที่ตามแนวชายแดน ร้อยละ 62.2 ระบุปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน และร้อยละ 60.9 ระบุ ความเป็นหนึ่งเดียวกันของกลุ่มประเทศในอาเซียน
ที่น่าพิจารณาคือ แนวโน้มของประชาชนที่เห็นว่าประเทศไทยได้ประโยชน์มากถึงมากที่สุดจากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนครั้งนี้ พบว่าเพิ่ม สูงขึ้นจากร้อยละ 46.8 ในเดือนกุมภาพันธ์มาอยู่ที่ร้อยละ 70.2 ในการสำรวจล่าสุด และประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.7 รู้สึกชื่นชมและสนับสนุน กลุ่มคนเสื้อแดง (นปช.) ที่ไม่เคลื่อนไหวขัดขวางการประชุมอาเซียน ในขณะที่ร้อยละ 23.1 ไม่รู้สึกอะไร และร้อยละ 9.2 ไม่มีความเห็น
และประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.6 อยากเห็นภาพ นาย โอบามา ผู้นำสหรัฐจับมือกับ นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีของไทยจับมือกัน ฟื้นฟูเสถียรภาพของประเทศไทยและพัฒนากลุ่มประเทศอาเซียนในการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศครั้งต่อไป
ผอ.ศูนย์วิจัยเอแบคฯ กล่าวว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งนี้กำลังมีผลทางจิตวิทยาต่ออารมณ์ความรู้สึกของประชาชนคน ไทยภายในประเทศด้านความเชื่อมั่น ความภูมิใจและความหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง โดยเฉพาะต่อการประชุมสุด ยอดผู้นำอาเซียนในปลายปีนี้ และการไม่เคลื่อนไหวขัดขวางการประชุมอาเซียนของคนไทยบางกลุ่มน่าจะทำให้สถานการณ์ของประเทศที่ย่ำแย่ในขณะนี้ เปลี่ยนแปลงไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ สุดท้ายประชาชนคนไทยทุกคนในประเทศก็จะได้ประโยชน์ร่วมกันจากความสำเร็จของ สมาคมอาเซียน
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า
ตัวอย่าง ร้อยละ 54.2 เป็นหญิง
ร้อยละ 45.8 เป็นชาย
ตัวอย่าง ร้อยละ 7.2 อายุต่ำกว่า 20 ปี
ร้อยละ 20.8 อายุระหว่าง 20 — 29 ปี
ร้อยละ 21.9 อายุระหว่าง 30 — 39 ปี
ร้อยละ 24.1 อายุระหว่าง 40 — 49 ปี และ
ร้อยละ 26.0 อายุ 50 ปีขึ้นไป
ตัวอย่าง ร้อยละ 74.8 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
รองลงมาคือร้อยละ 22.3 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
และร้อยละ 2.9 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
ตัวอย่าง ร้อยละ 32.3 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป
ร้อยละ 24.9 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว
ร้อยละ 17.6 ระบุอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน
ร้อยละ 10.6 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ร้อยละ 6.2 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
ร้อยละ 5.7 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ
ในขณะที่ร้อยละ 2.7 ระบุว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ
โปรดพิจารณาประเด็นสำคัญที่ค้นพบในตารางต่อไปนี้