เอแบคโพลล์: สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อปัญหาการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข

ข่าวผลสำรวจ Tuesday December 29, 2009 15:29 —เอแบคโพลล์

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ “เอแบคเรียลไทม์โพลล์ (Real- Time Survey)” ที่เป็นการสำรวจผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบบรวดเร็วฉับไวภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง หลังจากมีสิ่งที่น่าสนใจติดตาม ในหมู่ประชาชน โดยครั้งนี้ได้ทำการสำรวจเรื่อง สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อปัญหาการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชน 18 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พะเยา พิษณุโลก กาญจนบุรี เพชรบุรี ชลบุรี ปทุมธานี สระบุรี ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และ สุราษฎร์ธานี ในการศึกษาครั้งนี้มีจำนวน ตัวอย่างประชาชนจากทั่วประเทศที่ถูกศึกษา รวมทั้งสิ้น 1,074 ครัวเรือน พบว่าตัวอย่างร้อยละ 81.7 ระบุติดตามข่าวสารผ่านสื่อมวลชนเป็นประจำ อย่างน้อย 1-2 วันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึงการรับทราบข่าวการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวง สาธารณสุขนั้นพบว่า ร้อยละ 66.3 ระบุทราบข่าว ในขณะที่ร้อยละ 33.7 ระบุไม่ทราบข่าวนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อปัญหาการทุจริตดังกล่าวนั้นพบว่าตัวอย่างร้อยละ 64.8 เชื่อว่ามีการทุจริตในโครงการดังกล่าว จริง ในขณะที่ร้อยละ 35.2 ระบุไม่เชื่อ ทั้งนี้ เมื่อสอบถามความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็ง นั้นพบว่า ร้อยละ 60.0 ระบุเชื่อมั่น ในขณะที่ร้อยละ 40.0 ระบุไม่เชื่อมั่น

ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ประชาชนร้อยละ 64.6 ระบุเห็นด้วยต่อการประกาศลาออกของนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข ในขณะที่ร้อยละ 35.4 ไม่เห็นด้วย

สำหรับความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลภายหลังการประกาศลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น พบว่า ร้อยละ38.9 ระบุเชื่อมั่น มากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 40.0 ระบุเหมือนเดิม และร้อยละ 21.1 ระบุเชื่อมั่นน้อยลง ทั้งนี้ร้อยละ 96.8 ระบุถึงเวลาแล้วที่นายอภิสิทธิ์ เวชชา ชีวะ นายกรัฐมนตรี ควรจัดการขั้นเด็ดขาดกับปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐ ในขณะที่ร้อยละ 3.2 ระบุยังไม่ถึงเวลา

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า

ตัวอย่าง ร้อยละ 51.8 เป็นหญิง

ร้อยละ 48.2 เป็นชาย

ตัวอย่าง ร้อยละ 5.8 อายุต่ำกว่า 20 ปี

ร้อยละ 23.9 อายุระหว่าง 20— 29 ปี

ร้อยละ 24.7 อายุระหว่าง 30—39 ปี

ร้อยละ 20.0 อายุระหว่าง 40—49 ปี

และร้อยละ 25.6 อายุ 50 ปีขึ้นไป

ตัวอย่าง ร้อยละ 73.1 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี

รองลงมาคือร้อยละ 22.7 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี

และร้อยละ 4.2 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี

ตัวอย่าง ร้อยละ 31.7 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป

ร้อยละ 24.8 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว

ร้อยละ 16.6 ระบุอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน

ร้อยละ 11.1 ระบุอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ

ร้อยละ 7.3 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ

ร้อยละ 6.9 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

ในขณะที่ร้อยละ 1.6 ระบุว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ

โปรดพิจารณาประเด็นสำคัญที่ค้นพบในตารางต่อไปนี้

ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการติดตามข่าวสารผ่านสื่อมวลชนในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
ลำดับที่          การติดตามข่าวสารผ่านสื่อมวลชนในช่วง 30 วันที่ผ่านมา                ค่าร้อยละ
1          ทุกวัน/เกือบทุกวัน                                                  53.5
2          3-4 วันต่อสัปดาห์                                                  18.1
3          1-2 วันต่อสัปดาห์                                                  10.1
4          ติดตามเป็นบางสัปดาห์                                               11.1
5          ไม่ได้ติดตามเลย                                                    7.2
          รวมทั้งสิ้น                                                        100.0

ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการรับทราบข่าวปัญหาการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข
ลำดับที่          การรับทราบข่าวปัญหาการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข    ค่าร้อยละ
1          ทราบข่าว                                                              66.3
2          ไม่ทราบข่าว                                                            33.7
          รวมทั้งสิ้น                                                              100.0

ตารางที่ 3  แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความคิดเห็นต่อปัญหาการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข
ลำดับที่          ความคิดเห็นต่อปัญหาการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข     ค่าร้อยละ
1          เชื่อว่ามีการทุจริตจริง                                                     64.8
2          ไม่เชื่อ                                                                35.2
          รวมทั้งสิ้น                                                              100.0

ตารางที่ 4  แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็ง
ลำดับที่          ความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง               ค่าร้อยละ
1          เชื่อมั่น                                                    60.0
2          ไม่เชื่อมั่น                                                  40.0
          รวมทั้งสิ้น                                                  100.0

ตารางที่ 5  แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความคิดเห็นกรณีการประกาศลาออกของนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงสาธารณสุข

ลำดับที่          ความคิดเห็น            ค่าร้อยละ
1          เห็นด้วย                      64.6
2          ไม่เห็นด้วย                    35.4
          รวมทั้งสิ้น                     100.0

ตารางที่ 6  แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลภายหลังการประกาศลาออกของนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรี

ว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ลำดับที่          ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล          ค่าร้อยละ
1          เชื่อมั่นมากขึ้น                     38.9
2          เหมือนเดิม                       40.0
3          เชื่อมั่นน้อยลง                     21.1
          รวมทั้งสิ้น                        100.0

ตารางที่ 7 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความคิดเห็นต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการจัดการขั้นเด็ดขาดกับ
ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐ
ลำดับที่          ความคิดเห็น                                   ค่าร้อยละ
1          คิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด          96.8
2          ยังไม่ถึงเวลา                                         3.2
          รวมทั้งสิ้น                                           100.0

--เอแบคโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ