เอแบคโพลล์: ผลวิจัยเชิงสำรวจ และบทวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติต่อประเด็นสำคัญทางการเมืองปัจจุบัน

ข่าวผลสำรวจ Wednesday September 15, 2010 10:03 —เอแบคโพลล์

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และนักศึกษาด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ( Cornell University) ได้นำเสนอผลวิจัยเชิงสำรวจและบทวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติต่อประเด็นสำคัญทางการเมืองปัจจุบัน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทั่วไปในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,513 ครัวเรือน โดยดำเนินการสำรวจในระหว่างวันที่ 6 - 14 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา

จากการพิจารณาข้อมูลที่ค้นพบครั้งนี้ หลังจากสอบถามความคิดเห็นถึงการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.3 ระบุว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา ในขณะที่ร้อยละ 15.6 ระบุไม่เป็นและที่เหลือไม่แน่ใจ

ดร.นพดล มองว่า หากกลุ่มประชาชนที่ต้องการชุมนุมในวันที่ 18 หรือ 19 กันยายนที่จะถึงนี้และเป็นการชุมนุมที่สงบมีการนำเสนอแนวทางที่สร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนทั่วไปและต่อประเทศชาติโดยส่วนรวมก็น่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ นอกจากนี้ เมื่อถามถึงความเห็นต่อข้อเรียกร้องของกลุ่มประชาชนคนเสื้อแดงในประเด็นต่างๆ พบสิ่งที่น่าพิจารณาคือ

ประการแรก ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.9 เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องเรื่องการประกันรายได้ให้เกษตรกรและกรรมกรให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.3 เห็นด้วยที่จะมีการลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เหลือ 5% และครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50.8 เห็นด้วยกับการยกเว้นภาษีน้ำมัน

ดร.นพดล วิเคราะห์ต่อว่า ข้อเรียกร้องที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยในการสำรวจครั้งนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ค้นพบเพราะหากรัฐบาลใดหรือกลุ่มคนกลุ่มใดทำให้ประชาชนมีหลักประกันในการดำรงชีวิต มีรายจ่ายน้อยลง ถ้าหากทำได้ก็ย่อมจะทำให้ประชาชนมีสิ่งที่ดีจับต้องได้เกิดขึ้นกับตนเองและคนรอบข้างเพราะมีรายจ่ายน้อยลง ก็น่าจะมีเงินในการ “จับจ่ายใช้สอย” หรือ “เก็บออม” ได้มากขึ้น ผลที่ตามมาคือ ความเดือดร้อนจะลดลงและชีวิตความเป็นอยู่ที่ยึดผูกกับรายได้ก็จะดีขึ้น

ผลสำรวจยังค้นพบต่อไปด้วยว่า คนจำนวนมากหรือร้อยละ 46.8 เห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีมรดกในอัตราก้าวหน้า ในขณะที่ร้อยละ 22.8 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 30.4 ไม่มีความเห็น สิ่งที่ค้นพบในเรื่องนี้น่าถูกนำไปศึกษาเพิ่มเติมว่า จะสามารถช่วยลดช่องว่างทางสังคมและเศรษฐกิจในหมู่ประชาชนได้มากน้อยเพียงไร จะมีการนำรายได้ไปช่วยพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนได้อย่างไร และที่สำคัญเงินที่จะสามารถจัดเก็บได้จะเป็นไปอย่างโปร่งใส ปราศจากปัญหาทุจริตคอรัปชั่นได้อย่างไร

ที่น่าสนใจคือ ประชาชนร้อยละ 37.4 เห็นด้วยกับการนำรูปแบบ “คณะลูกขุน” มาใช้ในการพิจารณาคดี แต่ร้อยละ 25.8 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 36.8 ไม่มีความเห็น

แต่ที่น่าห่วง คือ กลุ่มประชาชนถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มสามกลุ่มในสัดส่วนที่ไม่แตกต่างกันมากนัก คือ ประเด็นขอให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงทุกคน ตั้งแต่หลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา โดยพบว่า ร้อยละ 33.2 เห็นด้วย แต่ร้อยละ 37.5 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 29.3 ไม่มีความเห็น โดยผลสำรวจที่ออกมาเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงประเด็นที่อ่อนไหวทางการเมืองก็จะทำให้ประชาชนถูกแบ่งออกตามแนวคิดที่แตกต่างกันทางการเมืองในสัดส่วนมากพอๆ กัน และอาจส่งผลทำให้แนวคิดแนวทางในการปรองดองประชาชนกลุ่มต่างๆ ของประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบาก

อย่างไรก็ตาม ประชาชนเกินกว่าครึ่งหรือร้อยละ 54.1 เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องข้างต้นของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นการปฏิรูปประเทศไทยสู่ความก้าวหน้า ในขณะที่ร้อยละ 13.8 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 32.1 ไม่มีความเห็น

ดร.นพดล กรรณิกา ชี้ให้เห็นข้อมูลที่น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีคือ จำนวนมากหรือร้อยละ 47.8 มีความกังวลค่อนข้างน้อย ถึงไม่กังวลเลยว่าจะเกิดความรุนแรงบานปลายในการชุมนุมวันที่ 19 กันยายนนี้ ในขณะที่ร้อยละ 17.4 กังวลระดับปานกลาง แต่ร้อยละ 34.8 กังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อถามถึงทางออกที่ดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง พบว่า ร้อยละ 32.7 เห็นว่ารัฐบาลกับฝ่ายค้านควรร่วมกันสร้างความปรองดอง ในขณะที่ร้อยละ 27.5 เห็นควรยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 24.8 ให้นำทุกคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเที่ยงธรรม และรองๆ ลงไปคือ นายกรัฐมนตรีลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และอยู่ให้ครบวาระแล้วเลือกตั้งใหม่

ที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจพิจารณาคือ ร้อยละ 43.8 เห็นควรจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 3 เดือน ร้อยละ 37.8 ระบุภายใน 6 เดือน ร้อยละ 16.2 ระบุภายใน 1 ปีและร้อยละ 2.2 มากกว่า 1 ปีขึ้นไป ตามลำดับ

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 53.5 เป็นเพศหญิง

ร้อยละ 46.5 เป็นเพศชาย

ตัวอย่าง ร้อยละ 6.4 อายุต่ำกว่า 20 ปี

ร้อยละ 16.5 อายุระหว่าง 20-29 ปี

ร้อยละ 22.9 อายุระหว่าง 30-39 ปี

ร้อยละ 23.3 อายุระหว่าง 40-49 ปี

และตัวอย่าง ร้อยละ 30.9 อายุระหว่าง 50 ปีขึ้นไป

ตัวอย่าง ร้อยละ 45.7 จบมัธยมศึกษาตอนต้นหรือต่ำกว่า

รองลงมาร้อยละ 28.8 จบมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าหรือ ปวช.

และร้อยละ 14.6 จบปริญญาตรี

ส่วนผู้ที่จบอนุปริญญาหรือเทียบเท่าหรือ ปวส. และจบสูงกว่าปริญญาตรี มีร้อยละ 9.3 และ 1.6 ตามลำดับ

เมื่อจำแนกตามอาชีพ พบว่าร้อยละ 44.1 มีอาชีพค้าขายรายย่อย/อิสระ

รองลงมา ร้อยละ 17.2 เป็นผู้รับจ้างใช้แรงงานทั่วไป

ร้อยละ 13.8 เป็นลูกจ้าง/พนักงานบริษัท

ร้อยละ 11.8 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ

ร้อยละ 4.5 เป็นข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ

ร้อยละ 4.3 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

และร้อยละ 4.3 อื่นๆ อาทิ อาชีพเกษตรกร/ประมง รวมถึงว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ

โปรดพิจารณารายละเอียดดังตารางต่อไปนี้

ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องปกติธรรมดาของประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ลำดับดับ          การชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องปกติธรรมดาของประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย   ค่าร้อยละ
1          เป็นเรื่องปกติธรรมดา                                                            59.3
2          ไม่เป็น                                                                       15.6
3          ไม่แน่ใจ                                                                      25.1
          รวมทั้งสิ้น                                                                     100.0

ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดง
ข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดง                                        เห็นด้วย   ไม่เห็นด้วย   ไม่มีความเห็น   รวมทั้งสิ้น
1)          ประกันรายได้ให้เกษตรกรและกรรมกรให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ      76.9        6.2         16.9     100.0
2)          ลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เหลือ 5%                           67.3       13.7         19.0     100.0
3)          ยกเว้นภาษีน้ำมัน                                         50.8       24.4         24.8     100.0
4)          จัดเก็บภาษีมรดกในอัตราก้าวหน้า                             46.8       22.8         30.4     100.0
5)          นำรูปแบบ “คณะลูกขุน” มาใช้ในการพิจารณาคดี                  37.4       25.8         36.8     100.0
6)          ให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงทุกคน-
            นับตั้งแต่หลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา             33.2       37.5         29.3     100.0
7)          ข้อเรียกร้องข้างต้น เป็นการปฏิรูปประเทศไทยสู่ความก้าวหน้า        54.1       13.8         32.1     100.0

ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความกังวลว่าจะเกิดความรุนแรงบานปลายจากการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน
ลำดับดับ          ความกังวลว่าจะเกิดความรุนแรงบานปลายจากการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน       ค่าร้อยละ
1          ค่อนข้างน้อย-ไม่กังวลเลย                                                   47.8
2          ปานกลาง                                                               17.4
3          ค่อนข้างมาก-กังวลมากที่สุด                                                  34.8
          รวมทั้งสิ้น                                                               100.0

ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุทางออกที่ดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง
ลำดับดับ          ทางออกที่ดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง           ค่าร้อยละ
1          รัฐบาลกับฝ่ายค้านร่วมกันสร้างความปรองดอง                        32.7
2          ยุบสภาเลือกตั้งใหม่                                           27.5
3          นำทุกคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเที่ยงธรรม                    24.8
4          นายกรัฐมนตรีลาออก                                           7.5
5          แก้ไขรัฐธรรมนูญ                                              3.3
6          ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ                                             2.0
7          อื่นๆ ระบุ อยู่ให้ครบวาระ 4 ปี แล้วเลือกตั้งใหม่ เป็นต้น                2.2
          รวมทั้งสิ้น                                                  100.0

ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุระยะเวลาที่ควรจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่
ลำดับดับ          ระยะเวลาที่ควรจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่             ค่าร้อยละ
1          ภายใน 3 เดือน                                        43.8
2          ภายใน 6 เดือน                                        37.8
3          ภายใน 1 ปี                                           16.2
4          มากกว่า 1 ปี                                           2.2
          รวมทั้งสิ้น                                               100

--เอแบคโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ