ดัชนีราคาส่งออก-นำเข้าของประเทศเดือน ธันวาคม 2559 และปี 2559

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 7, 2017 16:04 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาส่งออก เดือนธันวาคม 2559 เทียบกับเดือนธันวาคม 2558 สูงขึ้นร้อยละ 2.9 (YoY) เป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องทุกหมวดสินค้าโดยเฉพาะสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สินค้าเกษตรกรรม สินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการของตลาดยังมีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณผลผลิตมีอยู่อย่างจำกัด

ดัชนีราคานำเข้า เดือนธันวาคม 2559 เทียบกับเดือนธันวาคม 2558 ปรับสูงขึ้นร้อยละ 5.4 (YoY) เป็นการปรับสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สินค้าทุน ยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง และสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ ราคาสินค้านำเข้าสำคัญที่ปรับสูงขึ้น อาทิ น้ำมันดิบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เนื่องจากปัญหาภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้น

ดัชนีราคาส่งออก เดือนธันวาคม 2559 มีค่าเท่ากับ 97.4 เทียบกับเดือนธันวาคม 2558 (ปี 2555=100) สูงขึ้นร้อยละ 2.9 (YoY) จากการปรับสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า ได้แก่ หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นจากราคาน้ำมันสำเร็จรูปตามแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่สูงขึ้น หมวดสินค้าเกษตรกรรม สูงขึ้นจากราคายางพารา ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และกุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงจากปัญหาภัยธรรมชาติและโรคระบาดกุ้งที่เกิดขึ้นในช่วงก่อน หมวดสินค้าอุตสาหกรรม จากการสูงขึ้นของเคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง ตามราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น สำหรับเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ราคาขยับขึ้นตามความต้องการสินค้าที่มีอย่างต่อเนื่อง และทองคำ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าในช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์สูงขึ้น เนื่องจากจีนปรับกำลังการผลิต สำหรับหมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรสูงขึ้น จากน้ำตาลทรายตามผลผลิตโลกที่ลดลง และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เนื่องจากไทยประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบประเภทอาหารทะเล

ดัชนีราคานำเข้า เดือนธันวาคม 2559 เท่ากับ 85.3 เทียบกับเดือนธันวาคม 2558 (ปี 2555=100) ปรับสูงขึ้นร้อยละ 5.4 (YoY) ทั้งนี้ สินค้าสำคัญที่เป็นแรงหนุนให้ดัชนีราคานำเข้าปรับสูงขึ้น ได้แก่ หมวดสินค้าเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป เนื่องจากการปรับลดกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เช่น ทองคำ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ตามทิศทางราคาในตลาดโลกเช่นกัน หมวดสินค้าทุน เช่น เครื่องจักรกล เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เนื่องจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง เช่น ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

ดัชนีราคาส่งออกของประเทศเดือนธันวาคม 2559

ดัชนีราคาส่งออกของประเทศ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าส่งออกในรูปของดัชนี โดยใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาส่งออกที่ผู้ส่งออกในประเทศไทยได้ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ราคาส่งออกที่สำรวจเป็นราคา F.O.B (Free On Broad) ครอบคลุม 4 หมวดสินค้า ได้แก่ หมวดสินค้าเกษตรกรรม หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร หมวดสินค้าอุตสาหกรรม และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง มีจำนวนรายการสินค้าทั้งหมด 838 รายการ สรุปได้ดังนี้

1. ดัชนีราคาส่งออกของประเทศเดือนธันวาคม 2559 เท่ากับ 97.4 (ปีฐาน 2555 = 100) (เดือนพฤศจิกายน 2559 เท่ากับ 96.9) โดยดัชนีราคาส่งออกเดือนธันวาคม 2559 ในหมวดสินค้าเกษตรกรรม เท่ากับ 86.0 หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เท่ากับ 101.8 หมวดสินค้าอุตสาหกรรม เท่ากับ 98.6 และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง เท่ากับ 100.3

2. การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาส่งออกของประเทศเดือนธันวาคม 2559 เมื่อเทียบกับ

2.1 เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2559 (MoM) สูงขึ้นร้อยละ 0.5 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าส่งออกจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

หมวดสินค้าที่ราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันดิบ ตามแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง สาเหตุหลักเป็นผลจากความคาดหวังที่มีต่อมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปคและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปค และจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ หมวดสินค้าเกษตรกรรม ได้แก่ ยางพารา เนื่องจากภาวะฝนตกชุกทำให้ผลผลิตยางลดลง ประกอบกับผลของนโยบายภาครัฐฯ ที่ต้องการลดพื้นที่ปลูกยาง เพื่อให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดและมีความสมดุลมากขึ้น สำหรับข้าว ราคาสูงขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการมีความต้องการข้าวเพิ่มขึ้นจากการที่ประเทศคู่ค้ามีคำสั่งซื้อเข้ามาเพื่อใช้ในช่วงปีใหม่ นอกจากนี้ ผักสดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง สินค้าประมง เช่น ปลาหมึก ปลา ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทำให้ปริมาณผลผลิตลดลง และส่งผลให้ราคาปรับสูงขึ้น และหมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบประเภทอาหารทะเลน้ำตาลทรายขาวและกากน้ำตาล และผัก-ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ปรับสูงขึ้นเล็กน้อยจากปริมาณผลผลิตที่มีอย่างจำกัด

อย่างไรก็ตาม หมวดสินค้าที่ราคาส่งออกปรับลดลง คือ หมวดสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ ทองคำ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าขึ้นของเงินเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ราคาลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัว ส่งผลให้ความต้องการลดลง สำหรับเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ราคาลดลงเล็กน้อย เนื่องจากความต้องการใช้เหล็กในกระบวนการผลิตจากผู้นำเข้าลดลง

2.2 เทียบกับเดือนธันวาคม 2558 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 2.9 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าส่งออกจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

ดัชนีราคาส่งออกปรับสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า ประกอบด้วย หมวดสินค้าเกษตรกรรม ได้แก่ ยางพารา สินค้าประมง (กุ้ง ปลาหมึก ปลา) ผักและผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ได้แก่ น้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผักและผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป และอาหารสัตว์เลี้ยงหมวดสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ทองคำ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง จากราคาน้ำมันสำเร็จรูปเป็นสำคัญ โดยสินค้าส่งออกสำคัญที่ปรับสูงขึ้น เป็นผลจากปริมาณผลผลิตที่ลดลง ประกอบกับความต้องการสินค้าที่มีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ แนวโน้มการปรับขึ้นของราคาน้ำมันเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น

2.3 เทียบเฉลี่ยกับเดือนมกราคม-ธันวาคม 2558 (AoA) ลดลงร้อยละ 0.1 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

หมวดสินค้าที่ดัชนีราคาส่งออกปรับลดลง ประกอบด้วย หมวดสินค้าเกษตรกรรม ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป โดยสาเหตุที่สินค้าส่งออกสำคัญปรับลดลง ปัจจัยหลักเป็นผลจากปริมาณผลผลิตส่วนเกินที่ล้นตลาด ราคาน้ำมันตลาดโลกที่อยู่ในระดับต่ำในช่วงก่อนหน้า และความต้องการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ขณะที่หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ดัชนีราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ น้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป จากปริมาณผลผลิตที่ลดลงและความต้องการยังมีอย่างต่อเนื่อง และหมวดสินค้าอุตสาหกรรม ดัชนีราคาส่งออกไม่เปลี่ยนแปลง

ดัชนีราคานำเข้าของประเทศเดือนธันวาคม 2559

ดัชนีราคานำเข้าของประเทศ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้านำเข้าที่ผู้นำเข้าในประเทศไทยได้จ่ายไปเพื่อนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ทั้งนี้ ราคานำเข้าที่สำรวจเป็นราคา C.I.F. (Cost, Insurance และ Freight) ครอบคลุม 5 หมวดสินค้า ได้แก่ หมวดสินค้าเชื้อเพลิง หมวดสินค้าทุน หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง มีจำนวนรายการสินค้าทั้งหมด 842 รายการ สรุปได้ดังนี้

1. ดัชนีราคานำเข้าของประเทศเดือนธันวาคม 2559 เท่ากับ 85.3 (ปีฐาน 2555 = 100) (เดือนพฤศจิกายน 2559 เท่ากับ 84.8) โดยดัชนีราคานำเข้าเดือนธันวาคม 2559 ในหมวดสินค้าเชื้อเพลิง เท่ากับ 54.4 หมวดสินค้าทุน เท่ากับ 98.8 หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เท่ากับ 90.5 หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เท่ากับ 98.9 และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง เท่ากับ 89.7

2. การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคานำเข้าของประเทศเดือนธันวาคม 2559 เมื่อเทียบกับ

2.1 เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2559 (MoM) สูงขึ้นร้อยละ 0.6 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

หมวดสินค้าที่ราคานำเข้าปรับสูงขึ้นคือ หมวดสินค้าเชื้อเพลิง ได้แก่ น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคได้ลดกำลังการผลิตลง ขณะที่หมวดสินค้าที่ราคานำเข้าปรับลดลง ประกอบด้วย หมวดสินค้าทุน ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ได้แก่ ทองคำ เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ รวมทั้งผลพวงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้การถือครองทองคำไม่น่าสนใจ หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เนื่องจากค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลต่างๆ โดยเฉพาะค่าเงินเยน และหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ ยารักษาโรค เป็นต้น

2.2 เทียบกับเดือนธันวาคม 2558 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 5.4 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ตามภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลก หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เช่น ทองคำ ตามการอ่อนค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อน กอปรกับเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทำให้เกิดความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เนื่องจากจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ปรับลดกำลังการผลิตลง เคมีภัณฑ์ เนื่องจากเป็นสินค้าเกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น หมวดสินค้าทุน เช่น เครื่องจักรกล/เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม ทำให้มีความต้องการใช้เครื่องจักรกลหนักมากขึ้น หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง เช่น ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

2.3 เทียบเฉลี่ยกับเดือนมกราคม-ธันวาคม 2558 (AoA) ลดลงร้อยละ 2.7 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

หมวดสินค้าที่ราคานำเข้าปรับลดลง ได้แก่ หมวดสินค้าเชื้อเพลิงโดยมีสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติปิโตรเลียม และน้ำมันสำเร็จรูป หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินแร่โลหะ และปุ๋ย โดยในภาพรวมของราคาสินค้านำเข้าที่สำคัญ ยังคงเคลื่อนไหวตามสถานการณ์ราคาในตลาดโลกที่ได้รับแรงกดดันจากปัญหาภาวะอุปทานส่วนเกิน อาทิ น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ขณะที่หมวดสินค้านำเข้าที่ดัชนีปรับสูงขึ้น ได้แก่ หมวดสินค้าทุน เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบ เครื่องมือ เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และการทดสอบ หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง เช่น ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ผัก ผลไม้ และของปรุงแต่งที่ทำจากผักและผลไม้

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2507 7000 โทรสาร 0 2507 5825


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ