ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนเมษายน 2567

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 3, 2024 15:52 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนเมษายน 2567 เท่ากับ 112.2

เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงร้อยละ1. เดือนเมษายน 2566 (YoY)ลดลง-1.1 2. เดือนมีนาคม 2567 (MoM)ไม่เปลี่ยนแปลง0.0 3. ช่วงเดียวกันของปีก่อน (AoA)ลดลง-1.1 Highlights

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนเมษายน 2567 เท่ากับ 112.2 เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2566 (YoY)ลดลงร้อยละ 1.1 มีสาเหตุจากฐานของปีก่อนที่สูง และการลดลงของดัชนีหมวดต่าง ๆ ได้แก่ หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลงจากปัญหาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังไม่ฟื้นตัว ทำให้มีอุปทานเหล็กส่วนเกินสูง เป็นปัจจัยกดดันราคาเหล็กทั้งในตลาดโลก (เอเชีย จีน) และในประเทศหดตัว หมวดซีเมนต์ ลดลงจากการแข่งขันที่สูงและต้นทุนพลังงาน (ถ่านหิน) ลดลง หมวดสุขภัณฑ์ และหมวดวัสดุฉาบผิว ลดลงจากความต้องการใช้ที่ลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้มีการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน ส่งผลให้อุปสงค์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวหมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ลดลงจากราคายางมะตอย ที่ลดลงตามราคาพลังงาน (ถ่านหิน) ขณะที่หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต หมวดกระเบื้อง และหมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ดัชนีราคาสูงขึ้น

เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM)ดัชนีราคาไม่เปลี่ยนแปลง ภาพรวมดัชนีทรงตัวเกือบทุกหมวดเนื่องจากเดือนนี้มีช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ปริมาณการผลิตและความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างชะลอตัว สำหรับหมวดที่ดัชนีราคาลดลง ได้แก่ หมวดซีเมนต์ ลดลงจากการแข่งขันที่สูง หมวดสุขภัณฑ์ จากความต้องการใช้ลดลง เนื่องจากอุปสงค์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว และหมวดที่ดัชนีราคาสูงขึ้น ได้แก่ หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต จากต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น และหมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ จากราคายางมะตอยสูงขึ้นตามราคาปิโตรเลียม1. เทียบกับเดือนเมษายน 2566 (YoY)ลดลงร้อยละ 1.1 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า ดังนี้

หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้สูงขึ้นร้อยละ5.0 จากการสูงขึ้นของไม้แบบไม้โครงคร่าวเสาเข็มไม้บานประตูและวงกบประตูเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งสูงขึ้น

หมวดซีเมนต์ ลดลงร้อยละ 1.1 จากการลดลงของปูนซีเมนต์ผสม ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ และปูนฉาบสำเร็จรูปเนื่องจากการแข่งขันสูง และต้นทุนพลังงาน (ถ่านหิน) ลดลง

หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 0.8 จากการสูงขึ้นของเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ท่อระบายน้ำคอนกรีต รางน้ำคอนกรีต และผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ตามการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ (หิน ทราย) และค่าขนส่ง

หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลงร้อยละ 3.7 จากการลดลงของเหล็กตัวซีเหล็กเส้นกลมผิวเรียบ -ผิวข้ออ้อย ท่อเหล็กกลวงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ท่อเหล็กดำ และชีทไพล์เหล็ก จากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังไม่ฟื้นตัวทำให้มีอุปทานเหล็กส่วนเกินสูง

หมวดกระเบื้อง สูงขึ้นร้อยละ 0.2 จากการสูงขึ้นของกระเบื้องคอนกรีตมุงหลังคา และครอบสันโค้ง เนื่องจากราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้น (แร่ยิปซั่ม สี)

หมวดวัสดุฉาบผิว ลดลงร้อยละ 0.1 จากการลดลงของน้ำมันเคลือบแข็งภายใน -ภายนอก ซิลิโคน และน้ำยากันซึม เนื่องจากความต้องการใช้ที่ลดลงจากอุปสงค์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว

หมวดสุขภัณฑ์ ลดลงร้อยละ 3.6 จากการลดลงของโถส้วมชักโครก ราวจับสแตนเลส และฝักบัวอาบน้ำ เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน

หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นร้อยละ 0.6 จากการสูงขึ้นของสายไฟฟ้า VCT สายส่งกำลังไฟฟ้า NYYสายเคเบิล THWท่อ PEและข้อต่อท่อประปา เนื่องจากมีความต้องการใช้ในการก่อสร้างด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานของรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น

หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ลดลงร้อยละ 2.8 จากการลดลงของยางมะตอย ตามการลดลงของราคาพลังงาน (ถ่านหิน) และอลูมิเนียมแผ่นเรียบ ลดลงตามราคาวัตถุดิบ (อลูมิเนียม)

2.เทียบกับเดือนมีนาคม 2567 (MoM) ดัชนีราคาไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก หมวดกระเบื้อง หมวดวัสดุฉาบผิว และหมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ดัชนีราคาไม่เปลี่ยนแปลง

หมวดซีเมนต์ ลดลงร้อยละ 0.7 จากการลดลงของปูนซีเมนต์ผสม ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนฉาบสำเร็จรูป และปูนกาวซีเมนต์ เนื่องจากการแข่งขันสูง และต้นทุนพลังงาน (ถ่านหิน) ลดลง

หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 0.1 จากการสูงขึ้นของคอนกรีตผสมเสร็จ และคอนกรีตหยาบเนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น

หมวดสุขภัณฑ์ ลดลงร้อยละ 0.8 จากการลดลงของโถส้วมชักโครก และราวจับสแตนเลสจากความต้องการใช้ที่ลดลงเนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน

หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ สูงขึ้นร้อยละ 0.4 จากการสูงขึ้นของยางมะตอยตามการสูงขึ้นของราคาปิโตรเลียม

หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 1.0 จากการสูงขึ้นของเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง รางน้ำคอนกรีต ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป และคอนกรีตผสมเสร็จ ตามการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ (หิน ทราย) และค่าขนส่ง

หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลงร้อยละ 3.7 จากการลดลงของเหล็กตัวซี เหล็กเส้นกลมผิวเรียบ -ผิวข้ออ้อย ท่อเหล็กกลวงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และชีทไพล์เหล็ก จากปัญหาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังไม่ฟื้นตัวทำให้มีอุปทานเหล็กส่วนเกินสูง

หมวดกระเบื้อง สูงขึ้นร้อยละ 0.2 จากการสูงขึ้นของกระเบื้องคอนกรีตมุงหลังคา และครอบสันโค้ง เนื่องจากราคาวัตถุดิบ (หิน ทราย) สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

หมวดวัสดุฉาบผิว สูงขึ้นร้อยละ 1.8 จากการสูงขึ้นของสีเคลือบน้ำมันสีทาถนนชนิดสะท้อนแสง สีน้ำอะครีลิคทาภายใน -ภายนอก ตามการสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบเคมีภัณฑ์ (ผงสี กาว)

หมวดสุขภัณฑ์ ลดลงร้อยละ 2.9 จากการลดลงของโถส้วมชักโครก ราวจับสแตนเลส และฝักบัวอาบน้ำเนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน

หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นร้อยละ 0.8 จากการสูงขึ้นของท่อ PE ท่อ PVC ก๊อกน้ำ ถังดักไขมัน ประตูน้ำ ท่อระบายน้ำเสีย PVCสายไฟ VCT สายส่งกำลังไฟ NYYและสวิตซ์ไฟฟ้า เนื่องจากมีความต้องการใช้ในการก่อสร้างด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานของรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น

หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ลดลงร้อยละ 4.1 จากการลดลงของยางมะตอย เนื่องจากราคาพลังงาน (ถ่านหิน) ลดลง และอลูมิเนียมแผ่นเรียบลดลงตามราคาวัตถุดิบ (อลูมิเนียม) ที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

4. แนวโน้มดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือนพฤษภาคม 2567 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนพฤษภาคม ปี 2567 มีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี 2566โดยมีปัจจัยบวกจากการเร่งดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2567 ในโครงการก่อสร้างของภาครัฐ และการก่อสร้างด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานของรัฐวิสาหกิจ ส่งผลให้ความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้มีการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน ส่งผลให้อุปสงค์ของภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ความผันผวนของราคาน้ำมันและพลังงานจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้มีอุปทานเหล็กส่วนเกินสูงจากจีนกดดันราคาเหล็กในตลาดโลกและประเทศไทย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ จะต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ